12 ตุลาคม 2559: DRT ฟันธงแนวโน้มช่องทางขายผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างเติบโตแรง หลังผู้ประกอบการเร่งขยายสาขาไม่หยุด ชี้เป็นโอกาสในการกระจายสินค้าผ่านช่องทางขายไปยังผู้บริโภค มั่นใจสิ้นปีขยับสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างเพิ่มเป็น 12% จากยอดขายรวมทั้งหมด
นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างในปีนี้พบว่า ช่องทางจำหน่ายผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง มีอัตราการขยายตัวที่โดดเด่นกว่าช่องทางจำหน่ายอื่นๆ เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายต่างใช้โอกาสในช่วงนี้ที่ต้นทุนค่าก่อสร้างไม่ได้สูงมาก เร่งเดินหน้าขยายสาขาในต่างจังหวัดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศได้ดียิ่งขึ้น โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะทำสัดส่วนยอดขายจากช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 12% ของยอดขายรวม

เนื่องจากมีความพร้อมด้านกำลังการผลิต และการกระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางจำหน่ายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น การเป็นพันธมิตรกับห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่จึงถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ DRT สามารถกระจายสินค้าเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกทั้งยังเป็นการช่วยขยายตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายสินค้าหรือมีตัวแทนจำหน่ายที่เพียงพอ
ขณะเดียวกัน ช่องทางการขายดังกล่าว ยังเอื้อต่อการช่วยสร้างแบรนด์สินค้าของ DRT ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น ผ่านการจัดวางสินค้าภายในร้านที่สามารถนำเสนอจุดขายด้านฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ ประกอบกับบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ณ ช่องทางจำหน่ายกับกลุ่มลูกค้าเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ เช่น กลุ่มช่าง ผู้รับเหมารายย่อย ผู้รับเหมาช่วงและเจ้าของบ้าน ทำให้ยอดขายจากช่องทางจำหน่ายดังกล่าวมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี
กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวว่า จากความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตในกลุ่มประเทศ CLMV+I หรือ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ เวียดนามและอินโดนีเซีย ที่ยังมีโอกาสที่ดีในอนาคต หากห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ได้เข้าไปลงทุนขยายสาขาในประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจาก DRT ได้เข้าทำตลาดในกลุ่มประเทศดังกล่าวอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่า CLMV+I ยังคงเป็นตลาดที่สำคัญที่จะช่วยผลักดันการเติบโตต่อไปในอนาคต เพื่อให้บรรลุเป้าหมายมีสัดส่วนยอดขายจากตลาดต่างประเทศ 20% ของยอดขายรวมทั้งหมดภายในปี 2561 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 17% ของยอดขายรวมทั้งหมด ![]()












