WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม 2568 ติดต่อเรา
บลจ.กสิกรไทย เปลี่ยนชื่อกองทุนเป็น K-SF เริ่มใช้ชื่อใหม่ตั้งแต่ 4 ม.ค. 2560 เป็นต้นไป!!!

กรุงเทพฯ 4 มกราคม 2560 : นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) โดยเปลี่ยนชื่อเป็น กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) เพื่อให้ชื่อของกองทุนสะท้อนถึงนโยบายการลงทุนได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และสื่อถึงการเป็นกองทุนตราสารหนี้ซึ่งมีความแตกต่างกับกองทุนรวม ตลาดเงิน โดยจะเริ่มใช้ชื่อใหม่ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2560 เป็นต้นไป

k01

เนื่องจากกองทุนรวมในกลุ่มตลาดเงิน และกองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไปที่สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ กองทุนทั้ง 2 ประเภทจะมีความแตกต่างกันทั้งในแง่ประเภทของตราสารและอายุตราสารที่ลงทุน ซึ่งโดยทั่วไปกองทุนรวมตราสารหนี้จะมีอายุเฉลี่ยของตราสารมากกว่ากองทุนรวมตลาดเงิน จึงทำให้มีความผันผวนของราคาที่สูงกว่า

ดังนั้น บริษัทจึงเห็นสมควรให้เปลี่ยนชื่อกองทุนใหม่จากกองทุนเปิดเคเอ็มพลัส (K-MPLUS) เป็น กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) เพื่อให้สื่อถึงนโยบายการลงทุนที่ชัดเจนและมีความแตกต่างกับกองทุนรวมตลาดเงิน ทั้งนี้เนื่องจากเป็นเพียงการเปลี่ยนชื่อกองทุนเท่านั้นแต่นโยบายการลงทุนรวมถึงระดับความเสี่ยงของกองทุนยังคงเหมือนเดิม

สำหรับนโยบายการลงทุนของกองทุน K-SF จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งภาครัฐและเอกชน โดยสามารถลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกิน 50% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ทั้งนี้กองทุน K-SF เหมาะสำหรับเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ต้องการลงทุนในระยะสั้นหรือเพื่อเป็นแหล่งพักเงินในระยะเวลาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป และคาดหวังผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากและกองทุนรวมตลาดเงิน รวมถึงผู้ที่ต้องการสภาพคล่องสูงเนื่องจากสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และผู้ลงทุนจะได้รับเงินค่าขายคืนในวันทำการถัดไป

ปัจจุบันกองทุน K-SF ของบลจ.กสิกรไทยถือเป็นกองทุนตราสารหนี้ทั่วไประยะสั้น ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีมูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 241,000 ล้านบาท (ข้อมูลจาก AIMC ณ วันที่ 30 ธ.ค. 59)

“ด้านมุมมองตลาดตราสารหนี้ไทยในปี 2560 บลจ.กสิกรไทย คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจนถึงสิ้นปี 2560 เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดย FED ได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้งในปี 2560

ทั้งนี้ มองว่าตลาดได้รับรู้ทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ไปมากแล้ว ทำให้ในระยะต่อไปราคาตราสารหนี้ไม่น่าปรับตัวลงแรงมากนัก นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีอยู่สูง ทั้งจากนโยบายของสหรัฐฯ เองและความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปรวมถึงการอ่อนค่าของเงินหยวนของจีน ทำให้ความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ยังมีอยู่สูง ประกอบกับปริมาณสภาพคล่องในระบบการเงินโลกที่ยังมีอยู่สูง ยังเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตราสารหนี้ในปี 2560” นายชัชชัยกล่าว logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP