กรุงเทพฯ, 8 พฤษภาคม 2567 : นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรีตระหนักถึงความเร่งด่วนและความจำเป็นในการสนับสนุนลูกค้าธุรกิจให้ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงสู่เส้นทางของความยั่งยืน ในปีนี้ กรุงศรีจึงได้สานต่อโครงการ Krungsri ESG Awards เป็นปีที่สอง เพื่อเป็นแพลตฟอร์มในการเชิดชูเกียรติธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการทำงานด้าน ESG และนำแนวทางไปปรับใช้กับธุรกิจจนเกิดผลสำเร็จ ซึ่งเรามุ่งหวังให้รางวัลนี้เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการที่ลงมือทำ ESG อยู่แล้ว ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ เห็นว่า ESG สามารถทำได้จริงและจำเป็นต้องทำ พร้อมกันนี้ กรุงศรีได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดหลักสูตรอบรมพิเศษ Krungsri ESG Academy 2024 โดยจะเน้นการถ่ายทอดความรู้เรื่อง ESG ให้กับผู้ประกอบการอย่างเข้มข้น เพื่อช่วยสร้างแผนเปลี่ยนผ่านธุรกิจที่นำไปใช้ได้จริง และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจในระยะยาว
สำหรับโครงการ Krungsri ESG Awards 2024 ได้รับเกียรติจากองค์กรพันธมิตรผู้ทรงคุณวุฒิและมีวิสัยทัศน์ด้าน ESG มากมาย ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทย สมาคมธุรกิจเพื่อสังคม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาร่วมแนะนำแนวทางในการปรับตัวให้กับธุรกิจ และเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาและตัดสินรางวัล ซึ่งแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่
• รางวัลที่มอบให้กิจการที่มีความเป็นเลิศ ครอบคลุมทุกมิติทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Excellence) และ
• รางวัลเพื่อเชิดชูกิจการที่ริเริ่มและดำเนินการตามแนวปฎิบัติที่ดีทั้งสามด้าน (Highly commended)
โดยในปีนี้ มีกิจการที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการกว่า 60 องค์กร ประกอบไปด้วย ลูกค้าธุรกิจ SME ลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่น สมาชิกของสมาคมธุรกิจเพื่อสังคม (SE Thailand) รวมถึงผู้ประกอบการที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของกรุงศรี ซึ่งผู้ประกอบการทั้งหมดจะได้เข้าร่วมหลักสูตรอบรมพิเศษ Krungsri ESG Academy 2024 เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจตามกรอบ ESG อย่างครบทุกมิติจากผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ ตลอดระยะเวลาสี่เดือน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่วิธีการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน การจัดการด้านสภาพภูมิอากาศ การบริหารความเสี่ยงและภาวะวิกฤต
รวมถึงแนวทางการดำเนินการธุรกิจหรือกิจกรรมสีเขียวตามนิยาม Thailand Taxonomy และได้ลงมือพัฒนาแผนในการปรับเปลี่ยนธุรกิจตามกรอบ ESG (Transition Plan) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากพันธมิตรและกรุงศรี ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับโอกาสการเข้าถึงเครือข่าย ESG ที่น่าเชื่อถือจากเครือข่ายพันธมิตรของกรุงศรี เพื่อสร้างโอกาสธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ กรุงศรียังได้ตั้งเป้าให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainable Finance) สำหรับกลุ่มลูกค้า SME ในปีนี้ไว้ที่จำนวนกว่า 4,500 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมา 2566 ปล่อยสินเชื่อ SME โดยเฉพาะ ESG จำนวน 6,147 ล้านบาท ซึ่งสินเชื่อที่ได้รับการตอบรับที่ดี อาทิ สินเชื่อเอสเอ็มอีเพื่อผู้หญิง ที่ธนาคารมุ่งเน้นให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ตามมาด้วยสินเชื่อโซล่ารูฟ และสินเชื่อ EV Station ที่กำลังเติบโตไปควบคู่กับรถยนต์ EV ซึ่งปีนี้ก็ยังได้รับการตอบรับที่ดีต่อลูกค้าอย่างต่อเนื่อง