19 มกราคม 2560 : นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (19 ม.ค.) ว่าแรงขายที่เกิดขึ้นในตลาดต่างประเทศคืนที่ผ่านมาน่าจะเป็นปัจจัยบวกรายวันมากกว่า รายงานภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวดี และประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นาง Janet Yellen ให้ความเห็นต่อภาวะเศรษฐกิจไปในทางเดียวกันกับรายงานที่ออกมาเป็นผลให้ค่าเงินดอลล่าร์ปรับตัวสูงขึ้น กล่าวคือตลาดตีความในเรื่องเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ตามมาด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังระบุไม่ได้ว่าจะมีการปรับขึ้น 3 ครั้งในปีนี้หรือไม่ คาดว่าคงต้องรอดูการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของนาย Trump ก่อน

และคืนที่ผ่านมา ตัวแปรที่ผกผันกับค่าดอลล่าร์ คือ ทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์เป็นลบจากการแข็งค่าของเงินดอลล่าร์ (Dollar Index เช้านี้ อยู่ที่ 101.35 จุด สูงขึ้นจากวันที่ 17 ม.ค. 1.0%) ส่วนวันนี้ ตลาดจะรอดูการกล่าวสุนทรพจน์ ครั้งที่สองของนาง Yellen ที่ Stanford Institute ขณะที่ปัจจัยลบต่อตลาดตัวเดิม คือ นโยบาย Trump ที่เริ่มเตรียมการเจรจาการค้า โดยจีน เป็นเป้าหมายสำคัญ ยังเป็นตัวกดดันตลาด และความกังวลต่อ BRExit คาดจะยังมีอยู่ในตลาด ประเมินว่า ด้วยความกังวลนี้เอง โดยเฉพาะนโยบายการค้าของสหรัฐฯ จะทำให้นักลงทุนยังซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วโลกด้วยความระมัดระวังเงินที่ไหลเข้าตลาดเอเชียส่วนใหญ่ไปเข้าที่ตลาดพันธบัตรมากกว่าตลาดหุ้น
ด้านราคาน้ำมันดิบ รายงานของ EIA ที่ระบุว่าผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ จะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 4 หมื่นบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.พ.เป็นสัญญาณว่าผู้ผลิตน้ำมันจาก Shale Oil ที่มีต้นทุนต่ำกำลังกลับเข้ามาในตลาด ซึ่งจะเป็นตัวถ่วงราคาน้ำมันดิบ WTI ไม่ให้ขึ้นไปเกิน $55 เหรียญ (ล่าสุด $52 เหรียญ) อย่างไรก็ตาม การประชุมผู้ผลิตน้ำมัน ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หากกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC และพันธมิตรลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ (แผนลดกำลังการผลิต 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ก็อาจหนุนราคาน้ำมัน ให้วิ่งเข้าใกล้ $55 เหรียญ ได้
ดังนั้นภาพรวมของตลาดหุ้นไทยวันนี้ การเข็นมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจแต่ปัจจัยต่างประเทศยังดูคลุมเครือคาดว่าจะยังไม่มีอะไรที่จะพลิกให้นักลงทุนกลับมาไล่ซื้อหุ้นจนผ่าน 1,575 ขึ้นไปได้ แต่ด้วยเย็นวานนี้ (18 ม.ค.) SET Index ปิดลดลงมากผิดปกติ คือลงแรงช่วงปลาย (ปิดที่ 1560.83 จุด ลดลง 6.01 จุด จากที่อยู่ในแดนบวกมาเกือบตลอดวัน) วันนี้ จึงคาดว่าดัชนีฯน่าจะมีการ reboundในช่วงเปิดตลาด แต่ยืนได้หรือไม่อยู่ที่ตลาดต่างประเทศและราคาน้ำมันตลาดช่วงยังอยู่ในช่วงของการพักตัว
นักลงทุนควรพิจารณาเลือกขายทำกำไรหุ้นที่ขึ้นมามากๆ หุ้นที่มีรายได้จากการส่งออกยังเป็นลบ เนื่องจากผลของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เป็นความเสี่ยงของธุรกิจ การเข้าลงทุนในวันนี้ ควรเลือกตัวที่มีข่าวบวกและเล่นสั้นๆไว้ก่อนและควรดูตลาดต่างประเทศประกอบไปด้วย ในการเก็งกำไรช่วงสั้นหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิเช่น BJC , STEC , TVO , LOXLEY , BKDมองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,553-1,568 จุด ![]()












