กรุงเทพฯ 20 มกราคม 2560 : ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2559 (งบการเงินรวมก่อนตรวจสอบ) มีผลกำไรสุทธิจำนวน 47,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% จากปี 2558 ซึ่งเป็นผลมาจาก รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่เพิ่มขึ้น โดยที่สินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวดีขึ้น รายได้ดอกเบี้ยสุทธิรวมในปี 2559 มีจำนวน 88,449 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 6.8% จากปี 2558 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่ธนาคารสามารถบริหารต้นทุนเงินฝากได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเติบโตของสินเชื่อ 5.8% จากปีก่อน
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 17.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากในปี 2558 มีกำไร (พิเศษ) จากการขายเงินลงทุนตราสารทุนจำนวนมาก หากไม่รวมกำไรจากเงินลงทุนดังกล่าว รายได้ที่มิใช่ดอกเบี่ยลดลง 3.9% มาจากรายได้จากธุรกิจประกันชีวิต และกำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศที่ลดลง อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมในปี 2559 อยู่ที่ 2.67% ลดลงจาก 2.89% ณ สิ่นปี 2558 มาจากการปรับตัวที่ดีขึ้นของคุณภาพสินเชื่อกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่
ในขณะที่ SME และลูกค้าบุคคลสินเชื่อด้อยคุณภาพยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในปี 2559 ธนาคารตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 22,528 ล้านบาท หรือ 1.19% ของสินเชื่อรวม ลดลง 24.2% จากปี2558 เนื่องจากอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัว
ดีขึ้น โดยที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นเป็น 134.3% ณ สิ้นปี 2559 จาก 109.8% ณ สิ้นปี 2558
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าท่ีบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าว ถึงผลประกอบการในปีที่ผ่านมาว่า “ธนาคารสามารถรักษาผลประกอบการให้อยู่ในระดับดีใกล้เคียงกับปี ก่อนท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของธนาคารในการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าอัตราสินเชื่อที่ด้อยคุณภาพจะปรับตัวดีขึ้นแต่ธนาคารคงดำรงอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่สูงไว้ที่ระดับเกินกว่า 130% โดยเน้นความมั่นคงของธนาคารเป็นหลัก”