22 มกราคม 2560 : หากพูดว่า “เรามาเก็บเงินเถอะ” หลายคนคงอยากที่จะตอบว่า “เก็บหอมรอมริบมาตลอด แต่เก็บเท่าไหร่ไม่รวยสักที” ก็แหงหละ… หากดอกเบี้ยเงินฝากยังเตี้ยติดดินอยู่แบบนี้ ออมเท่าไหร่ก็ไม่มีทางงอกเงยได้เหมือนช่วงปู่ย่าตายายของเราแน่นอน เพราะสมัยนั้นดอกเบี้ยสูงลิบลิ้ว จนกลายเป็นฟองสบู่
ย้อนกลับมาเรื่องการออม ออมอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพ FINNOMENA กูรูด้านการเงินที่แวดวงการเงินรู้จักกันดี รายงานถึงกลยุทธ์ออมเงินไว้อย่างน่าสนใจ โดยวิธีออมเงินของ FINNOMENA เลือกใช้วิธี SMART เรามาดูกันว่าแนวทาง SMART เป็นอย่างไร
FINNOMENA รายงานว่า การตั้งเป้าหมายแบบ SMART เป็นแนวทางที่น่าสนใจและเอาไปใช้ได้ผลจริง โดยเน้นให้ความสำคัญกับจุดเริ่มต้น ก็คือการตั้งเป้าหมาย โดยวิธีการตั้งเป้าหมายใช้หลักการดังนี้
SMART ย่อมาจาก ห้าคำที่เป็นที่มาของหลักการก็คือ
S = Specific
มีความชัดเจนและเจาะจง เพราะปัญหาที่ผ่านมาคือการตั้งเป้าหมายกว้างไปทำให้ไม่มีน้ำหนักพอที่จะเริ่มลงมือทำ แทนที่เราจะตั้งเป้ามายว่า “อยากเริ่มเก็บเงิน” ให้เปลี่ยนเป็น “อยากเก็บเงินล้านแรกเพื่อดาวน์คอนโด” เป็นต้น
M = Measurable
เป้าหมายต้องวัดได้ตลอดเวลา คือต้องรู้ตัวตลอดว่าตอนนี้อยู่ตรงไหนของเป้าหมายแล้ว ห่างจากเป้าหมายเป็นเงินเท่าไหร่
A = Attainable
เป้าหมายต้องเป็นไปได้ อันนี้เราต้องรู้ตัวเองนะ เป้าหมายแต่ละคนต่างกันตามศักยภาพการสร้างรายได้ และภาระรายจ่ายของแต่ละคน ดังนั้นเป้าหมายที่ป็นไปได้ของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน บางคนอาจเก็บได้ทุกเดือน เดือนละ 5,000 บาท หรือบางคนอาจหาได้ 200,000บาท ก้อนเดียวตอนสิ้นปี ทุกๆปี เป็นต้น
R = Realistic
เป้าหมายตั้งอยู่บนความจริง อันนี้แนะนำให้ตั้งเป้าที่ท้าทายพอควรแต่สามารถทำได้จริง..ถ้าเป้าง่ายไปเราจะผลัดวันประกันพรุ่ง ชอบคิดว่า เดี๋ยวค่อยทำก็ได้ง่ายๆเอง …นอกจากแรงจูงใจแล้วเราต้องใส่ใจที่จะทำมันด้วย
T = Time-Bound
เป้าหมายมีกำหนดเเวลา สำคัญมากเพราะการกำหนดเวลาจะสร้าง แรงจูงใจ ให้เราติดตามและถามตัวเองเสมอว่าเราทำถึงไหนแล้ว ห่างจากเป้าหมายเท่าไหร่ จะถึงเป้าหมายทันเวลามั้ย…
อ่านถึงตรงนี้ เป้าหมายของแต่ละคนเป็นอย่างไรกันบ้าง ถ้าเรามีฝันที่ใหญ่เพียงพอและตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ด้วยหลักการ SMART บางคนอาจจะบอกว่า
“อีก 5 ปีข้างหน้านี้!!! ฉันต้องการเก็บเงิน 1 ล้านบาทแรกให้ได้ ด้วยจำนวนเงินต่อเดือน 15,000 บาท”
“ฉันอยากจะมีเงิน 5 ล้านบาทไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกต่อปริญญาโทเมืองนอก ในอีก 10 ปีหลังจากนี้ ด้วยจำนวนเงินต่อเดือน 25,000 บาท”
“ฉันอยากมีเงินก้อนตอนเกษียณซัก 20 ล้านบาท ในอีก 30 ปีข้างหน้า ด้วยจำนวนเงินต่อเดือน 10,000 บาท”
จะเห็นว่าแต่ละคนอาจจะมีเป้าหมายที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่สำคัญที่ทุกคนต้องมีเหมือนๆกันก็คือวินัยที่จะลงมือทำให้เป้าหมายเป็นจริง
ดังนั้น FINNOMENA รู้ว่าปัญหาหลักของหลายๆคนไม่ใช่เรื่องการไม่มีเป้าหมาย ไม่ใช่เรื่องการไม่มีความตั้งใจที่ดี แต่สุดท้ายเราจะลงมือทำมันอย่างไร และเราจะมีวินัยสม่ำเสมอไปตลอดระยะเวลา 5 ปี 10 ปี หรืออีก 30 ปีข้างหน้า
วันนี้…เราจะผัดผ่อนการเก็บออมกันออกไปอีกน่านแค่ไหน…หรือจะเริ่มกันเลย..เลือกได้!!!