2 กุมภาพันธ์ 2560 : นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยถึงเป้าหมายในปี 2560 ว่า บริษัทฯ เดินหน้ากลยุทธ์ยึดลูกค้าศูนย์กลางอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้น 3 ความแกร่ง ได้แก่ นำองค์กรเข้าสู่ยุค 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ ให้ความสำคัญกับการเพิ่มจำนวนตัวแทนใหม่ และมุ่งเน้นออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ ตั้งเป้าเบี้ยปีแรก 6,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ขายผ่านช่องทางตัวแทน 2,400 ล้าบาท ขายผ่านแบงก์แอสชัวรันส์ 2,200 ล้านบาท ขายผ่านช่องทางโทรศัพท์ 1,800 ล้านบาท และขายตรง 100 ล้านบาท เบี้ยประกันรับรวม 32,500 ล้านบาท ภายในปี 2560
จากการที่ อลิอันซ์ อยุธยา ได้รับเลือกเป็น Digital Hub สำหรับภูมิภาคนั้น เนื่องจาก การพัฒนาการด้านดิจิตอล เอเชีย และยุโรปมีลำดับขั้นแตกต่างกัน และสถานที่ อลิอันซ์ ไทยอยู่ในเอเชีย ดังนั้น การพัฒนาด้านดิจิตอลต้องใช้เวลารวดเร็ว หากอยู่ไกลจะไม่สามารถนำมาใช้อย่างทันถ้วงที ซึ่ง อลิอันซ์ อยุธยา มีบุคลากรที่สามารถพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้ดี และยังมีอีกบริษัท AMOS (Allianz Managed Operations & Services ) ที่รวมคนกว่า 250 คนที่ดูแลด้านไอที ซึ่งอยู่ในประเทศไทยรองรับ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงสรุปเป็นปัจจัยที่อลิอันซ์ อยุธยาตอบโจทย์และได้รับเลือก ซึ่งบริษัทฯ ทุ่มเงินลงทุนมากว่า 200 ล้านบาท ขณะนี้อลิอันซ์ อยุธยามีบุคลากรด้านไอทีมืออาชีพประมาณ 15 คน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30 คนในปีนี้
ต่อเรื่องดังกล่าวจึงเป็นจุดสำคัญด้านดิจิตอลต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นในประเทศไทย ในการพัฒนาแพลทฟอร์มและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ง่าย และลูกค้าใกล้ชิดกับแบรนด์ มากยิ่งขึ้น ตัวแทนสามารถเสนอขาย โค้ดราคา ถ่ายรูป กรอกใบคำขอ จ่ายเงิน ฯลฯ ทุกอย่างผ่านช่องทางนี้โดยไม่ต้องใช้กระดาษ ซึ่งผ่าน Allianz Discover เป็นโครงการระดับภูมิภาคที่จะใช้กับตัวแทนของอลิอันซ์ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ทุกๆ ระบบงานจะรองรับเครื่องมือดังกล่าวนี้
สำหรับช่องทางตัวแทนในปีนี้ถือเป็นปีแห่งการสรรหา หรือ “Year of Recruitment” ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการสร้างการเติบโต โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์คุ้มครองและแบบยูนิต ลิงค์ โดยทุกๆ ยูนิตลิงค์จะขายควบไปกับสินค้าคุ้มครอง ดังนั้น ภายในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าสร้างตัวแทนใหม่อีก 6,500 ราย ปัจจุบันมีตัวแทนทั้งหมด 11,000 คน โดยมุ่งเน้นการจัดสัมมนาทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด Life Changer เป็นการนำเอาวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถ รวมทั้งตัวแทนรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จอันดับต้นๆ เดินสายแบ่งปันความรู้และแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตสู่ความสำเร็จ
นอกจากนี้ ยังมุ่งเป้าที่จะเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพ ให้สอดคล้องกับภาวะอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ เริ่มขายประกันชีวิตประเภทยูนิต ลิงค์ เมื่อไตรมาส 4 ปี 2559 โดยปี 2560 ตั้งเป้าที่จะสร้างยอดขายให้กับผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพ เพิ่มขึ้นเป็น 42%
อย่างไรก็ตาม สินค้าของบริษัทฯทั้งหมดมาจากสินค้าแบบความคุ้มครอง 90% เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้น ไทยมีคนสูงอายุมากขึ้น และสินค้าที่ซื้อไม่ได้ตอบโจทย์การรักษาพยาบาล มีเพียง 30% ที่มีประกันสุขภาพ ดังนั้นตลาดยังกว้างที่จะเข้าไปให้บริการด้านประกันสุขภาพ ปีที่แล้วขายสินค้าความคุ้มครอง 39% คาดปีนี้จะไปถึง 42% บริษัทฯ ตั้งใจเติบโตจากเป้าหมาย 80% เราอาจจะเติบโตสินค้าความคุ้มครอง 22% สินค้าออม 2% แต่โดยรวมโตเพียง 8% เพราะเบี้ยของออมเยอะกว่า 3 ปีที่แล้วสินค้าประเภทออมขายดีสุด ปัจจุบันสินค้าเหล่านั้นอยู่อันดับ 5 และล่าสุดสินค้าสุขภาพปลดล็อคขึ้นมาแทนที่
“สำหรับประเด็นอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นนั้น คาดว่าดอกเบี้ยไม่น่าจะขึ้นไปเยอะ และต้องดูด้วยว่าธุรกิจประกันชีวิตมีเพื่อขายสินค้าประกันชีวิตไม่ได้มาแข่งกับธนาคาร ไม่ว่าดอกเบี้ยจะขึ้นหรือลงสินค้าความคุ้มครองไม่แปรผันอยู่แล้ว ดังนั้นเราต้องทำในสิ่งที่เราแข็งแกร่งเพื่อมอบความคุ้มครองให้กับลูกค้า สินค้าออมเหมือนการพนัน ดอกเบี้ยขึ้นก็ดี ดอกเบี้ยตกก็ไม่ดี อลิอันซ์ คาดว่า 41% ผู้ที่ซื้อสินค้าออมจะมาซื้อสินค้าความคุ้มครองมากขึ้น คาดว่าระดับของดอกเบี้ยจะไม่ขยับขึ้นมากนัก เพราะเป็นเพียงกระแสของการเลือกตั้งจากทางสหรัฐฯ เพียงชั่วคราวเท่านั้น” นายไบรอันกล่าว