WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน 2568 ติดต่อเรา
“พีทีจี” ตั้งลำปี 60 ลุยเต็มแม็กซ์!!

10 กุมภาพันธ์ 2560 : “พีทีจี” ตั้งเป้าขยายสถานีบริการน้ำมันครบ 1,800 สาขาทั่วประเทศ มุ่งเพิ่มจำนวนผู้ถือบัตร PT Max Card เป็น 7.4 ล้านสมาชิก พร้อมเปิดตัวแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า “พีที โมบาย แอพลิเคชั่น” สนองตอบทุกไลฟ์สไตล์และเข้าถึงใจลูกค้าทั่วประเทศมากขึ้น พร้อมทุ่มเงินลงทุนมูลค่าถึง 5,000 ล้านบาท ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจบริการด้านพลังงานแบบครบวงจร ล่าสุดร่วมมือกับ บริษัท ซัปโปโร โฮลดิ้ง จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ (Know-How) มุ่งเป็นโรงงานแรกของโลกกับเทคโนโลยีการผลิต โดยเอากากมันสำปะหลังเหลือใช้มาก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยถึง ทิศทางธุรกิจในปี 2560 ตั้งเป้าสร้างปริมาณการขายเพิ่มขึ้นราว 40% เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีปริมาณการขายรวมอยู่ที่ 2.9 พันล้านลิตร ซึ่งในปีนี้มีแผนดำเนินธุรกิจที่สร้างความแข็งแกร่งในอนาคต กับธีมที่มีชื่อว่า “Age of Innovation” หรือการปรับใช้นวัตกรรมเพื่อนำแบรนด์มุ่งสู่การผู้นำธุรกิจพลังงานครบวงจร ซึ่งมีองค์ประกอบ 3 ส่วนด้วยกันคือ ส่วนแรกคือ การใช้เทคโนโลยี SYN4MAX ในการช่วยผลิตน้ำมันเครื่องคุณภาพสูง พีที แมกซ์นิตรอน

ptg

ส่วนที่สองคือ การเปิดตัวแอพพลิเคชั่น “พีที โมบาย แอพพลิเคชั่น” เพื่อให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้า และท้ายสุดคือการใช้องค์ความรู้จากพาร์ทเนอร์อย่าง “ซัปโปโร” จากประเทศญี่ปุ่นเพื่อนำเอานวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีมาผลิตพลังงานทดแทนอย่างเอทานอล โดยปีนี้วางงบลงทุนมูลค่าสูงถึง 5,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการลงทุนในการขยายและปรับปรุงธุรกิจหลัก 3,500 ล้านบาท ธุรกิจ Non-oil 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ 1,000 ล้านบาท ในส่วนของสถานีบริการน้ำมัน ปัจจุบันเรามีจำนวนกว่า 1,400 สาขา ภายในสิ้นปีนี้เราตั้งเป้าว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,800 สาขาทั่วประเทศ อีกทั้งยังมุ่งเพิ่มจำนวนผู้ถือบัตร PT Max Card เป็น 7.4 ล้านสมาชิก เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีจำนวน 5.6 ล้านสมาชิก

สำหรับปีนี้ เราจะมุ่งเน้นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงก็คือ กลุ่มธุรกิจนอน-ออยล์ (Non-Oil) (รายได้ที่ไม่ได้มาจากการขายน้ำมัน) ตั้งเป้าไว้ว่าจากปัจจุบันที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2,700 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 155% กาแฟพันธุ์ไทยจะมีสาขาครบ 100 สาขา ในกลางปีนี้ และจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 200 สาขาทั่วประเทศ ภายในสิ้นปี 2560 ซึ่งจะไม่ได้จำกัดพื้นที่แค่เพียงในสถานีบริการน้ำมันเท่านั้น แต่จะขยายไปตามห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า มหาวิทยาลัย และสนามบินต่างๆ เพื่อทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ตลอดจนเพิ่มจำนวนร้านแม็กซ์ มาร์ท (Max Mart) เป็น 140 สาขาอีกด้วย

“และเพื่อให้เข้ากับธีม Age of Innovationปีนี้พีทีจียังจะเปิดตัวแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า “พีที โมบาย แอพลิเคชั่น”ที่มาพร้อมกับความทันสมัยและสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าแม็กซ์การ์ด (Max card) อีกทั้งยังจะมีการเปิดตัวแคมเปญใหม่ๆเพื่อให้ผู้บริโภครู้จักและเกิดความนิยมแบรนด์ในวงกว้าง จากที่ปัจจุบันมีเฟซบุ๊คที่มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา มีแอพพลิเคชั่น line มีสมาชิกถึง 10 ล้านราย รวมถึงมี Line Sticker ซึ่งมียอดดาวน์โหลดถึง 6 ล้านครั้ง” นายพิทักษ์กล่าว

นายพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้นอกจากโครงการอุตสาหกรรมปาล์มคอมเพล็กซ์ (Palm Complex) ที่ล่าสุดจะสามารถเริ่มกระบวนการผลิตไบโอดีเซลได้เต็มรูปแบบในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้แล้วธุรกิจที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะเข้ามาเสริมก็คือเอทานอล ล่าสุดได้ประกาศจับมือกับบริษัท เอี่ยมบูรพา จำกัดก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลจากกากมันสำปะหลัง ซึ่งมีกำลังผลิต 2 แสนลิตรต่อวัน มูลค่าการลงทุน 1.5 พันล้านบาท ผ่านบริษัทร่วมทุน อินโนเทค กรีน เอ็นเนอยี ซึ่งพีทีจีถือหุ้น 60% โดยใช้เทคโนโลยีของ ซัปโปโร โฮลดิ้ง จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ช่วยลดต้นทุน เสริมศักยภาพการทำกำไรในระยะยาว 

นอกจากนี้ การลงทุนในบริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA ผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทางทะเลและทางบก ซึ่งเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการบริหารจัดการระบบขนส่งให้ได้ประโยชน์สูงสุด และยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัททั้งในปัจจุบันและอนาคต ส่วนธุรกิจด้านโลจิสติกส์ที่ได้ร่วมทุนกับ บริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด หรือ FPT ผู้ให้บริการขนส่งน้ำมันอากาศยานและน้ำมันภาคพื้นดินผ่านระบบท่อ โดยถือเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างระบบท่อที่ต่อขึ้นไปทางภาคเหนือซึ่งก็จะเข้ามาช่วยสนับสนุนระบบขนส่งของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นคาดว่าโครงการจะเสร็จภายในปี 2562

ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจทั้งปี 2559 ตัวเลขอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ โดยเรามียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 28% เมื่อเทียบกับปี 2558 ปัจจัยหนึ่งมาจากการที่เรามีสถานีบริการและยอดขายต่อสถานีบริการที่เติบโตขึ้น ยิ่งกว่านั้นเรายังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง พีที แม็กซ์นิตรอน (PT Maxnitron) ซึ่งเราตั้งเป้าหมายยอดขายกว่า 6 ล้านลิตร นอกจากนี้ เรายังมีสถานีบริการก๊าซ แอลพีจี เข้ามาเติมเต็มสำหรับการให้บริการ ซึ่งผลประกอบการเติบโตสวนทางกับอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นถึงผลการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการและการให้ความสนใจในบัตร PT Max Card เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” นายพิทักษ์กล่าวlogo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

ธุรกิจ ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP