กรุงศรี นำโดย ไพโรจน์ ชื่นครุฑ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ร่วมกับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำโดย นายมงคล ตั้งศิริวิช (ที่ 3 จากขวา) ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมาขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจสีเขียวและคาร์บอนต่ำ โดยการสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ในการนำเทคโนโลยีประหยัดพลังงานและแนวคิดธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้จริง
กรุงเทพ, 19 มิถุนายน 2568 : กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) และ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จับมือสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่เศรษฐกิจสีเขียวและคาร์บอนต่ำ ด้วยการผสานความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติของชไนเดอร์ อิเล็คทริค และความแข็งแกร่งด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนของกรุงศรี เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจ SME สามารถนำเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน รวมทั้งแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในครั้งนี้ จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ซึ่งส่วนใหญ่มีต้นทุนค่าไฟฟ้าในสัดส่วน 10-30% ขึ้นกับประเภทธุรกิจ สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้พลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนทางการเงินที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ธุรกิจไทยก้าวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายมงคล ตั้งศิริวิช ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา กล่าวเสริมว่า ความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายในการสร้างผลกระทบเชิงบวกช่วยให้ทุกคนได้ใช้พลังงานและทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีโซลูชันเพื่อเชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืน โดยความร่วมมือกับกรุงศรีในครั้งนี้ จะช่วยให้กลุ่ม SME สามารถเข้าถึงการจัดการพลังงานด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงความรู้ด้านความยั่งยืนเพื่อปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจาก SME คือกลไกสำคัญของเศรษฐกิจประเทศไทยและเป็นกลุ่มที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกด้านสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง
โดยทั้งสององค์กรจะร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือในสองแนวทางหลัก ได้แก่ 1.การส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ สร้างองค์ความรู้ด้านความยั่งยืน ให้กับภาคธุรกิจผ่านกิจกรรมและเวทีแลกเปลี่ยน เช่น Krungsri ESG Awards และ Krungsri ESG Academy รวมถึงโครงการความร่วมมืออื่น ๆ เพื่อยกระดับความเข้าใจเรื่อง ESG และการนำไปปฏิบัติจริงอย่างมีประสิทธิภาพ และ 2. นำเสนอโซลูชันทางการเงินที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุน SME ในการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยคาร์บอน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน