WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม 2568 ติดต่อเรา
กลุ่มบริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ตั้งเป้าหมายการเติบโตสิ้นปี 68 ไว้ที่ 15,000 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกโต 17%

10 ตุลาคม 2568 : นายอาร์ช คอลมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 นั้น เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ได้รายงานการเติบโตถึง 17% บริษัทฯ สามารถสร้างเบี้ยรับรวม (GWP) อยู่ที่ประมาณ 8,000 ถึง 9,000 ล้านบาท ในส่วนของประกันชีวิตและประกันวินาศภัย หลังจากปี 2567 ที่ประสบความสำเร็จด้วยการเติบโตถึง 24.6% ในธุรกิจประกันชีวิต โดยคาดว่าเมื่อสิ้นสุดปี 2568 จะมีมูลค่าเบี้ยประกันรวมกว่า 15,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ประกันชีวิต (life) 14,000 ล้านบาท ประกันวินาศภัย (Non-life)  1,000 ล้านบาท

เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ “Lifetime Partner 27: Driving Excellence” โดยแบ่งออกเป็น 3 แกนหลัก “Strengthen Distribution” การมุ่งเสริมความแข็งแกร่งให้ช่องทางการจำหน่าย เริ่มจาก Bancassurance การขยายความร่วมมือให้เพิ่มขึ้นจากเดิมทั้งในกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน Agency เพิ่มจำนวนตัวแทนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมเสริมศักยภาพด้วยเครื่องมือดิจิทัล Direct Marketing ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการเสริมให้กับพันธมิตร Brokers เตรียมจับมือกับพันธมิตรนายหน้าชั้นนำของประเทศไทย เพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และช่องทาง Digital มุ่งเน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและประกัน การท่องเที่ยว ซึ่งสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบความสะดวกสบายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

"นอกจากการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกแล้ว เจนเนอราลี่ ประเทศไทยยังลงทุนอย่างมากในการขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร พันธมิตร โดยมีสัดส่วนเบี้ยประกันประมาณ 70%  ช่องทางนายหน้าคิดเป็นสัดส่วน 10%  เร่งพัฒนาช่องทางตัวแทน (Agency) อีก 10% โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนตัวแทน MDRT ที่ผ่านคุณสมบัติเพิ่มขึ้น 40 คนในปีนี้ จากปีที่ผ่านมามีจำนวน  29 คน รวมไปถึงเร่งขยายช่องทางดิจิทัลและออนไลน์ อย่างเต็มรูปแบบอีก 10% " นายอาร์ช กล่าว

พร้อมกันนี้ยังได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีพัฒนาแอปพลิเคชัน GenWings ที่ออกแบบฟังก์ชันการใช้งานมาเพื่อตัวแทนจำหน่ายโดยเฉพาะให้สามารถใช้งานได้สะดวกและรวดเร็ว เช่น การคำนวณเบี้ยอัตโนมัติ การประเมินผลอนุมัติเบื้องต้นได้ทันที และที่สำคัญคือการป้องกันข้อมูลเพื่อความปลอดภัยภายใต้มาตรฐานสากล ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ ในการเสริมศักยภาพและอำนวยความสะดวกให้ตัวแทนขาย พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศไทย มีปัจจัยสนับสนุนสำคัญทางด้านภาวะเศรษฐกิจที่กระตุ้นการวางแผนการเงิน ความตระหนักด้านสุขภาพและค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์ที่เพิ่มสูงขึ้น (Medical Inflation) ตลอดจนพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่หันมาซื้อประกันเร็วขึ้น เพื่อสร้างหลักประกันระยะยาว รวมถึงบทบาทของภาครัฐในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ประกันภัย

"ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีอัตราเงินเฟ้อด้านค่ารักษาพยาบาลสูงที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ "ไม่ยั่งยืน" เนื่องจากยังมีคนไทยจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการประกัน หรือมีประกันไม่เพียงพอ และภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผู้คนมีความตระหนักรู้ในการใช้ประกันสุขภาพมากยิ่งขึ้น จึงถือว่าเป็นโอกาสในการเติบโตของประกันสุขภาพและเชื่อว่า ประกันสุขภาพควรจะเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ (affordable) บริษัทจึงเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นซื้อได้ในรูปแบบที่พวกเขาสามารถจ่ายได้ จึงนำมาซึ่งนโยบายร่วมจ่าย (Co-payment) แม้ว่านโยบายนี้จะกระทบลูกค้าเพราะพวกเขาจะต้องร่วมจ่าย แต่การเลือกแบบร่วมจ่ายทำให้ลูกค้าจ่ายเบี้ยประกันที่ถูกลง (more affordable) เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่จ่ายเต็ม"
นายอาร์ช กล่าวต่อไปถึงนโยบายร่วมจ่าย (Co-payment)  สำหรับข้าราชการ เป็นเรื่องใหม่ในประเทศไทย แต่มีมานานในตลาดที่พัฒนาแล้วทั่วโลก ซึ่งบริษัทมีความยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการทำให้ประกันสุขภาพและค่ารักษาพยาบาลเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ดังนั้น บริษัทกำลังทำงานร่วมกับองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางลดค่ารักษาพยาบาลให้ต่ำลง  เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพ ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น (more affordable) และมีความคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย (Higher value for money)
โดยมีแผนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีกประมาณ 4-5 แบบ ตั้งแต่ปลายปีจนถึงต้นปีหน้า อาทิ กรมธรรม์ Unit Link สำหรับลูกค้าที่ต้องการผลตอบแทนสูง ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกกองทุนที่ชอบได้เอง และสามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือยุโรปได้ด้วย พร้อมเตรียมปรับโฉมแอปพลิเคชันสำหรับให้บริการลูกค้า GEN 365 ให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งการสลับกองทุนในกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked) ได้ เพื่อการบริการ E-Claim ที่รวดเร็วกว่าเดิม พร้อมกันนี้ยังได้จัดกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์สุดพิเศษเฉพาะลูกค้าเจนเนอราลี่อยู่ตลอดเวลา 
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์การวางแผนเกษียณ (Retirement Planning) เนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ผลิตภัณฑ์สะสมทรัพย์ (Endowment) หรือประกันตลอดชีพ (Whole of Life) คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นตามเทรนด์การวางแผนเกษียณ มีการออก Exclusive Product ร่วมกับธนาคารเกียรตินาคิน คือ 90/5 สำหรับช่องทาง Agency และ 90/2 สำหรับช่องทางธนาคาร รวมไปถึงการออกผลิตภัณฑ์ประกันเดินทางที่ขายผ่านออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่อีกด้วย โดยยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจกับพันธมิตร เช่น สายการบิน
บริษัทฯ กำหนดกลยุทธ์ ในการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดของเบี้ยประกันรับรวม ได้แก่ ประกันชีวิต (Life Protection), ประกันสุขภาพ (Health Insurance), และ ประกันควบการลงทุน (Unit Link)  โดยมีเป้าหมายเป็น Top 5 ในทุกช่องทาง (ปัจจุบันเป็นอันดับ 5 แล้วในบางส่วนและ คาดว่าภายใน 3 ปี จะก้าวขึ้นเป็น Top 3 ซึ่ง ประกันกลุ่มก็สามารถก้าวขึ้นเป็น Top 3 แล้วขณะนี้
ประกันชีวิต ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP