28 กุมภาพันธ์ 2560 : วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไอสปอร์ต จำกัด เปิดเผยว่า “isport เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจสามารถ ไอ-โมบาย ที่จับมือกับ Sport Content Provider อันดับหนึ่งของไทย คือ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2004 เพื่อดำเนินธุรกิจด้านคอนเทนต์กีฬา มาในปีนี้ isport ประกาศเปิดแนวรุกธุรกิจด้านกีฬาเต็มตัว มุ่งสู่การเป็น “บริษัทที่ทำธุรกิจด้านกีฬาครบวงจร” ในยุค Digital 4.0
isport พร้อมรุกธุรกิจด้านกีฬาครบวงจร ด้วยความแข็งแกร่งของธุรกิจเดิม คือ Digital service นำเสนอข่าวสารด้านกีฬา โดยเน้นสื่อดิจิตอลที่เข้าถึงลูกค้า และ TV and Broadcasting ธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับ isport อย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอบริการครบวงจรทั้งการถ่ายทอดการผลิตรายการและการออกอากาศในช่องต่างๆ เช่น ทาง True Visions 3 ช่อง , สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ฯลฯ ด้วยบุคลากรพร้อมอุปกรณ์การถ่ายทอดที่ครบครันและทันสมัยที่สุดในประเทศไทย โดยพัฒนาไปสู่ช่องทางอื่นๆ เช่นดิจิตอล หรือ สื่อต่างๆของพันธมิตร และเสริมทัพด้วยธุรกิจใหม่ ได้แก่
1. Sport Tour นำเสนอทางเลือกใหม่ให้แก่แฟนกีฬาที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบเปิดประสบการณ์ใหม่ เช่น การร่วมเดินทางไปชมกีฬากับนักกีฬาที่คุณชื่นชอบแบบใกล้ชิด หรือ การเดินทางไปชมการแข่งขันกีฬาสำคัญระดับโลกแบบส่วนตัว โดยล่าสุด isport จัดทัวร์ชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติญี่ปุ่น
2. Sport Event เป็นผู้จัดกิจกรรมด้านกีฬาและบันเทิงระดับโลก เช่น การนำทีมสโมสรกีฬาชั้นนำของโลกมาให้คนไทยได้ชม, การจัดคอนเสิร์ตศิลปินระดับโลกที่จะนำกีฬาเข้ามาสอดแทรกในคอนเสิร์ต 3. Sport Commerce จัดทำเว็บไซด์ www.isportmart.com ศูนย์รวมของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับกีฬาและไลฟ์สไตล์ของคนรักกีฬา โดยนำเสนอความแตกต่าง และสามารถเลือกรูปแบบสินค้าได้เองมาเป็นจุดขาย
4. Game ตั้งเป้าปีนี้จะเปิดตัวเกมบนมือถือประมาณ 3-4 เกม ทั้งเกมด้านกีฬาและอื่นๆ สุดท้าย 5. Talent Management ธุรกิจที่จะสร้างความตื่นตัวให้กับวงการกีฬาเมืองไทย โดย isportจะเป็นบริษัทแรกในประเทศไทย ที่ให้บริการบริหารสิทธิประโยชน์แก่นักกีฬาแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การบริหารจัดการรายได้ พัฒนามูลค่าของนักกีฬาในเชิงธุรกิจ ดูแลสิทธิประโยชน์ ตลอดจนการวางแผนด้านการเงินระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นคงในอาชีพให้แก่นักกีฬามืออาชีพของไทย
จากทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นในช่วง 3-5 ปีมาโดยตลอด isport จึงตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ที่ 700 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2559 โดยรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจ TV and Broadcasting ซึ่งปัจจุบัน isport ได้รับความไว้วางใจจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยจนได้รับการเซ็นสัญญาการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560-2563 รวมถึงมีแผนที่จะนำ isport เข้าสู่ตลาด MAI ในไตรมาสที่ 3 ด้วย