24 พฤศจิกายน 2568 : นายกิตตินันท์ ภู่พงศ์พันธ์กุล กรรมการผู้จัดการบริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ “insurverse” ประกันภัยออนไลน์ ในเครือทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TIPH) เปิดเผยว่า ปี 2567 เป็นปีแรกที่ทำงานเต็มปี ซึ่งเริ่มมีประชาชนรู้จักและซื้อประกันภัยออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้สิ้นปี 2567 มีเบี้ยประกันภัยรับ 160 ล้านบาท
สำหรับปีนี้ 2568 มกราคม-ตุลาคม 10 เดือน มีผลงานแล้วเกือบ 200 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีเบี้ยประกันรับประมาณ 250-300 ล้านบาท โดยพอร์ตหลัก 90% เป็นประกันรถยนต์ ที่เน้นงานรถยนต์เข้าซ่อมอู่เป็นหลัก ราคาไม่สูงมากนักประชาชนเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งประกันพ.ร.บ.ออนไลน์ ขายดีที่สุด เนื่องจากมีราคาพิเศษ 499.60 บาท ซึ่งนับเป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่มีความสะดวกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ลูกค้าสามารถรับส่วนลดทันที แต่สำหรับคนที่ไม่สะดวกก็สามารถซื้อได้ตามช่องทางปกติ ดังนั้น ปีหน้า 2569 ทางบริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันรับไว้ 1,000 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทฯ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายโดยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ ช่องทางไลฟ์สดให้ความรู้ด้านประกันภัย อาทิ TIKTOK ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อคนที่ดูไลฟ์เขาสนใจที่จะทำประกันก็สามารถทำได้เลยทันที จนส่งผลให้ยอดขายในไลฟ์สดขณะนี้มีประมาณตัวเลข 7 หลักต่อเดือน อีกทั้งบริษัทยังขยายช่องทางออนไลน์ผ่านทุกแพลตฟอร์มเรียบร้อยแล้วปีหน้าก็สามารถเปิดให้บริการอย่างทั่วถึง
"ดังนั้น ในปี 2569 บริษัทฯ จึงมีนโยบายในการปรับเพิ่มเติมด้านผลิตภัณฑ์ ใหม่ๆ เพื่อมาเติมเต็มประกันรถยนต์หลัก โดยการเสริมเสริมความต้องการของผู้เอาประกันภัยให้ครบ แต่โปรดักส์ที่จะออกมาให้นั้นจะมีไซด์เล็กลงมาหน่อย เพื่อให้ซื้อง่ายขายคล่อง อาทิ ประกันชดเชยรายได้ รวมถึง ประกันสุขภาพ และประกันสัตว์เลี้ยง แต่ประกันสัตว์เลี้ยงนั้น ต้องพิจารณาถึงเบี้ยประกันภัย และสินไหมทดแทนเป็นสำคัญ โดยมีแนวคิดว่า อาจจะต้องทำเป็นเบี้ย Co-payment เนื่องจากพิจารณาด้านสินไหมทดแทนแล้ว ถ้าไม่มี Co-payment อาจจะไม่เพียงพอกับความเสียหายในการเคลม ก็จะเป็นการยากเพราะเบี้ยประกันจะสูงเกินไป ตนคิดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายนึงที่เขาพร้อมจะทำแบบ Co-payment ราคาลดลงมาในระดับที่เขาเข้าถึงได้ รวมถึงขยายช่องทางพาร์ทเนอร์ชิฟมากขึ้นอีกด้วย" นายกิตตินันท์ กล่าว
นายกิตตินันท์ กล่าวต่อไปถึง ประกันภัยรถยนต์อีวี EV ขณะนี้ยังไม่ได้รับคุ้มครองเพราะที่ผ่านมาตลาดรถยนต์อีวี มีจุดที่ต้องพิจารณา 2 เรื่อง คือ การควบคุมค่าซ่อม และทุนประกันภัยที่ยังไม่นิ่ง ขณะนี้ทุนประกันรถ EV ปรับราคาลดลงรวดเร็วมาก ดังนั้น คงต้องรอให้ตลาดนิ่งก่อน และรอสัญญาณจากบริษัทแม่หรือทิพยประกันภัย เพื่อความพร้อมในการขยายตลาด ซึ่งตลาดรถอีวี ขณะนี้ก็มีคนสนใจเพิ่มมากขึ้น “insurverse” ก็คาดว่าจะขยายทุกช่องทางให้ครอบคลุมมากที่สุด 
