2 ธันวาคม 2568 : นายสุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา 2567 มีผลงานบวกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และปี 2568 ช่วงครึ่งปีแรก 6 เดือน (มกราคม-มิถุนายน) มีเบี้ยประกันรับลดลง ส่งผลให้ผลงานติดลบกว่า 6% เนื่องจาก บริษัทฯ ไม่ได้เน้นไปขายรถไฟฟ้า EV รวมถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ลูกค้าที่เคยทำประกันประเภท 1 เปลี่ยนไปซื้อประกันประเภท 2+ 3+ หรือประเภท 3 ซึ่งเราก็เข้าใจในสภาวะปัจจุบัน ถึงกระนั้นการมีประกันภัยก็ยังเป็นเรื่องที่จำเป็นอยู่ แต่อย่างไรก็ดี คาดว่าสิ้นปีนี้จะพยายามขยับตัวเลขติดลบให้ลดลงไม่ให้ติดลบเกิน 2% ซึ่งก็ต้องเร่งงานกันอย่างมากในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี และก็เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวแทนมิตรแท้ประกันภัยทุกคน โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีเบี้ยประกันรับประมาณ 4,500 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

“เมื่อพิจารณาถึงประกันรถไฟฟ้าบริษัทฯ รับคุ้มครองไว้เพียง 100 คัน คิดเป็นเบี้ยประกันประมาณ 3 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทไม่ได้มุ่งเน้นขายประกันรถ EV และจะรับประกันภัยเฉพาะราคาที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งในอนาคตต้องรอความชัดเจนจากคปภ.และสมาคมประกันวินาศภัยไทยก่อนว่าเบี้ยประกันจะมีการปรับปรุงออกมาในรูปแบบไหนบ้าง เพราะทุกวันนี้ราคารถ EV ตกลงรวดเร็วมาก อีกทั้ง อู่ที่จะซ่อมก็ยังไม่เพียงพอ อะไหล่ก็ไม่มีสต็อก ทำให้การบริการแก่ลูกค้าล่าช้า จึงยังไม่เข้าไปรับประกันในช่วงนี้ รอดูสถานการณ์อีกสักระยะหนึ่งก่อน” นายสุขเทพ กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับเบี้ยประกันภัยรับ 95% มาจากช่องทางตัวแทน ส่วนอีก 5% มากจากโบรกเกอร์ ไฟแนนซ์ ดีลเลอร์ ซึ่งช่องทางตัวแทนนับเป็นช่องทางที่สำคัญในการสร้างเบี้ยประกันเป็นหลักมากว่า 30 ปี จากจุดเริ่มต้นมีตัวแทนเพียง 29 คน ปัจจุบัน มีพลังตัวแทนกว่า 18,000 คน ที่เป็นแรงช่วยผลักดันในการขยายตัวให้เติบโตมากยิ่งขึ้น

“ผมมองตัวแทนทุกคนเปรียบเสมือนลูกหลาน เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งจุดแข็งของการมีตัวแทนจำนวนมาก คืองานก็จะมาจากตัวแทนรายย่อย ซึ่งจุดนี้สามารถตัดปัญหาของการหายไปของเบี้ยประกันรายใหญ่ได้เพราะจะไม่เกิดขึ้น และข้อดีที่สำคัญคือ บริษัทฯ สามารถคัดสรรภัย ซึ่งตัวแทนที่มีความเชี่ยวชาญจะเป็นผู้ช่วยพิจารณาร่วมด้วย ทำให้อัตราสินไหมทดแทนสามารถควบคุมได้ปัจจุบันอยู่ที่ 58% ถ้าเทียบกับธุรกิจประกันภัยทั้งระบบอยู่ระดับ 68-72%"

ดังนั้น บริษัทจึงกำหนดเป้าหมายที่จะสร้างตัวแทนใหม่จากผู้ที่มองหาอาชีพเสริม หรือผู้ที่ไม่มีอาชีพอยากเข้ามาเป็นตัวแทนเต็มตัว โดยบริษัทฯ จะมีหลักสูตรในการพัฒนาฝึกอบรมด้านประกันให้อย่างเข้มข้น ก่อนที่จะสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตตัวแทนประกันวินาศภัย และภายหลังจากที่สอบผ่านแล้วยังมีการฝึกอบรมวิธีการนำเสนอ ผลิตภัณฑ์ประกันภัย การจำหน่าย และบริการอย่างครบวงจรให้อีกด้วย โดยล่าสุดมีตัวแทนสอบผ่านแล้วประมาณ 30% หรือสอบใบอนุญาตได้กว่า 800 คน จากทีมงานที่มีเป้าหมายในการสร้างคนสร้างอาชีพ

“ผลจากการสร้างคนสร้างอาชีพ มาเป็นตัวแทนมิตรแท้ กว่า 30 ปีที่ผ่านมามีตัวแทนจำนวนมากที่เข้ามาแล้วสามารถสร้างรายได้ดีขึ้น ไม่เว้นแม้แต่คนพิการที่ประสบความสำเร็จในอาชีพตัวแทนได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ยกตัวอย่างทีมงานหนึ่ง คุณพ่อ คุณแม่ พิการ แต่เขามีรายได้เกือบ 5 แสนบาท/เดือน จากการสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งในอาชีพนี้มีผู้ที่เคยประกอบอาชีพอื่นมาแล้วไม่ประสบความสำเร็จ แต่มาเป็นตัวแทนกับมิตรแท้ประกันภัยสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจริง” นายสุขเทพ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการจัดระบบการจ่ายสินไหมทดแทนหรือเคลมออนไลน์ หากลูกค้าเกิดเหตุเฉี่ยวชน จนต้องเข้ารับการซ่อมในอู่ บริษัทฯ มีระบบการจ่ายเงินสดให้ลูกค้าเลือกภายใต้วงเงินความเสียหายประมาณ 30,000- 50,000 หรือ 70,000 บาท ลูกค้าสามารถเลือกนำรถไปซ่อมกับอู่ที่ตนเองพึงพอใจได้ เพื่อความรวดเร็วของการบริการ และมีความยุติธรรมต่อลูกค้า ยกตัวอย่างรถเฉี่ยวชนต้องเข้าซ่อม บริษัทฯ ตีราคามาแล้วว่า จะซ่อมประมาณ 30,000 บาท แต่หากผู้เอาประกันภัยเลือกรับเป็นเงินสด นำรถไปซ่อมอู่ที่ตนเองเลือก หากอู่ดังกล่าวตีราคาค่าซ่อม 28,000 บาท ลูกค้าก็เหลือเงิน 2,000 บาท แต่หากอู่ตีราคา 32,000 บาท ก็สามารถเลือกได้อีกว่าจะนำกลับมาให้บริษัทฯ ซ่อมหรือจะเลือกจ่ายส่วนเกินเองก็ได้ เพื่อความสบายใจของลูกค้าทุกด้าน ซึ่งวิธีการนี้ทำมาแล้ว 5 ปี โดยเฉลี่ยบริษัทมีเคลมประมาณ 10,000 เคลม/เดือน และที่ผ่านมามีผู้เอาประกันภัยประมาณ 18% เลือกรับเงินสดนำรถไปซ่อมกับอู่ที่ตนเองพอใจ และมีเพียง 1 คนที่เอาเงินมาคืน

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีอู่ในเครือประมาณ 1,000 อู่ แบ่งเป็นอู่ห้าง 900 อู่ และอู่ธรรมดา 100 อู่ ก็ต้องยอมรับว่า ด้วยปริมาณอู่จำนวนมากและหลากหลาย จึงไม่สามารถควบคุมอู่ได้ทั้งหมด จึงยินดีที่จะให้ลูกค้าเลือกอู่ซ่อมได้เอง เพื่อลดปัญหาข้อร้องเรียน และสร้างความพึงพอใจต่อการซ่อมมากที่สุด แต่ถึงอย่างไรบริษัทฯ ก็มีอู่ในเครือที่ดีมีประสิทธิภาพเสริมเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ เนื่องจากบริษัทฯ มีการจัดการระบบการเคลมที่รวดเร็วภายใน 7 วัน 

นายสุขเทพ กล่าวต่อไปว่า ในวาระครบรอบ 80 ปี มิตรแท้ประกันภัยในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2570 หรือ ค.ศ. 2027 บริษัทฯ จึงตั้งเป้าหมายด้านสินไหมทดแทน ที่อยากเห็นลูกค้ารับเคลมเป็นเงินสด 80% และเป้าหมายการสร้างตัวแทนใหม่ 1 แสนคน พร้อมกับตั้งเป้าขยายเบี้ยประกันรับไว้ที่ 12,000 ล้านบาท ซึ่งสิ้นปี 2568 คาดว่าจะมีเบี้ยประกันรับที่ 4,500 ล้านบาท ดังนั้นปี 2569 จะเป็นปีที่ต้องก้าวกระโดดในการสร้างตัวแทนใหม่อีก 2-50,000 คน โดยคิดว่ามีความเป็นไปได้หากมีการสร้างตัวแทนเข้ามาจำนวนมากก็จะส่งผลให้เบี้ยประกันเพิ่มขึ้นตามมา

ส่วนทางด้านความมั่นคงของบริษัทฯ นั้น ปัจจุบัน มีเงินทุนจดทะเบียน 1,600 ล้านบาท มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio : CAR) 400-500% เพียงพอต่อการขยายงานในปัจจุบัน ซึ่งยังไม่ต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนในขณะนี้

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังพัฒนาระบบแอปพลิเคชั่น ที่เรียกว่า MITTARE INTELLIGENCE APPLICATION หรือ MIA ที่พัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำงานของตัวแทนและสำนักงานตัวแทนของบริษัทให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้เข้าถึงข้อมูลและการกระตุ้นยอดขายได้ โดยแบ่งเป็นเฟส 1 และ เฟส 2 เป็นการพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับตัวแทน และเฟส 3 พัฒนาเพื่อลูกค้าประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลตรวจสอบกรมธรรม์ของตนเองได้ เช่น ตรวจสอบแบบประกัน และเบี้ยประกันเป็นต้น ซึ่งเฟส 3 คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2570 

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ “ประกันภัยร้านอาหาร” ภายใต้ชื่อ “ร้านอาหารอุ่นใจ” สำหรับกรมธรรม์ใหม่นี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มีแนวคิดและสนับสนุนให้ร้านอาหารมีประกันภัย โดยทาง คปภ.จะช่วยออกแบบสติ๊กเกอร์เพื่อไปติดที่ร้านอาหาร โดยจะมีโลโก้ของคปภ.และบริษัทประกันภัยที่คุ้มครองคู่กัน เพื่อความมั่นใจของเจ้าของร้านและผู้เข้าไปใช้บริการในร้านอาหาร  โดยจะให้ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุ ประกันอัคคีภัย เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นจาก 2,000-10,000 บาท/ปี ขึ้นอยู่กับขนาดของร้านอาหาร  ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมอยู่แล้ว โดยเบื้องต้นตั้งเป้าจะให้บริการร้านอาหารประมาณ 10,000 ร้านทั่วประเทศ