WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม 2568 ติดต่อเรา
ท้ายปีชวนช๊อปกองภาษี

18 ธันวาคม 2568 : ช่วงโค้งสุดท้ายของปีถือเป็นจังหวะสำคัญของนักลงทุนที่ยังมองหาโอกาส “ปิดเกมภาษี” ไปพร้อมกับการวางแผนการเงินระยะยาว โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนเพื่อการเลี่ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมไทยเพื่อความยี่งยืน (Thai ESG) ที่นอกจากจะช่วยลดหย่อนภาษีได้ตามสิทธิแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนธุรกิจไทยที่ดำเนินงานอย่างยั่งยืนตามหลักสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

เดือนสุดท้ายของปี จึงเป็นโอกาสที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิให้ครบ พร้อมสร้างวินัยการออมเพื่อวัยเกษียณในระยะยาว อย่างไรก็ดี การลงทุน RMF Thai ESG ก็มีทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณา ข้อดีคือได้ทั้งสิทธิลดหย่อนภาษีและโอกาสเติบโตจากหุ้นไทยคุณภาพในระยะยาว แต่ข้อจำกัดคือเงินลงทุนต้องถือยาวและต้องลงทุนต่อเนื่องตามเงื่อนไข RMF

ดังนั้น ผู้ลงทุนควรประเมินความพร้อมด้านกระแสเงินสดและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ ช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้จึงเป็นช่วง “ห้ามพลาด” สำหรับคนที่วางแผนดี เพราะหากเลือกให้เหมาะ RMF Thai ESG อาจเป็นตัวช่วยสำคัญทั้งด้านภาษีและความมั่นคงทางการเงินในอนาคต

ขณะเดียวกันบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KAsset ระบุว่า ด้วยเหลือเวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ใครยังไม่ได้เก็บกองทุนลดหย่อนภาษี อย่าชะล่าใจเด็ดขาด ขณะที่ KAsset ได้คัดกองภาษีมาให้เน้นๆกับ 5 ธีมกองทุนเด่น RMF ที่ไม่ใช่แค่ช่วย “เซฟภาษี” แต่ยังเปิดโอกาสให้ “พอร์ตโต” รับเทรนด์โลกปีหน้า สร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

ก่อนตกขบวนสิ้นปี โดยธีมแรก ธีมอินเดีย ของดีราคาน่าสะสม แนะนำ กองทุน K-INDIARMF โดยหลังจากที่ตลาดอินเดียร้อนแรงมาพักใหญ่ ตอนนี้ราคาก็ได้กลับมาอยู่ในจุดที่เหมาะสมอีกครั้ง ทำให้เป็นจังหวะที่ดีมากในการเข้าสะสม "ของดี" ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ขณะที่ พื้นฐานเศรษฐกิจอินเดียยังแกร่งมาก โดยมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตถึง 6.6% ในปี 2568 อีกทั้งยังมีความได้เปรียบในเรื่องของฐานการบริโภคขนาดใหญ่ จากสัดส่วนประชากรวัยแรงงานที่มีมาก ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีนโยบาย China Plus One ของจีน ที่ทำให้อินเดียได้รับอานิสงส์ไม่น้อย จากการย้ายฐานผลิต ซึ่งนั่นอาจทำให้อินเดียกลายเป็น "โรงงานแห่งใหม่ของโลก" ในอนาคตก็เป็นได้

2.ธีมจีน พื้นฐานยังแกร่ง ปัจจัยหนุนยังมี แนะนำ.กองทุน K-CHINARMF แม้ตัวเลขภาคการส่งออกของจีนในช่วงที่ผ่านมาจะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้บ้าง แต่หากมองลึกลงไปที่พื้นฐาน จีนยังคงมีความแข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ อนาคตจีนยังมีปัจจัยบวกอีกหลายด้าน ที่จะเข้ามาช่วยหนุนภาคการส่งออกและเศรษฐกิจจีนได้ ไม่ว่าจะเป็น มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ หรือการบริโภคภายในที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้นักเศรษฐศาสตร์จาก Goldman Sachs ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP จีนปี 2025 เป็น 5.0% และปี 2026 เป็น 4.8% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดและ IMF ได้คาดการณ์ไว้ โดยที่สัญญาณบวกนี้มาจากการส่งออกที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทาง Goldman Sachs ก็คาดการณ์ว่าจะเติบโตได้สูงถึง 5-6% ต่อปี ปรับเพิ่มจากเดิมที่ 2-3% เนื่องจากสินค้าจีน กำลังเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดโลกได้มากขึ้น

3.ธีมหุ้นโลก พร้อมรับทุกโอกาส กระจายความเสี่ยงแนะนำ กองทุน K-GSELECTRMF สำหรับใครที่เลือกไม่ได้ว่าจะลงประเทศไหน การกระจายลงทุนใน "หุ้นโลก" ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะกองทุนนี้จะเน้นคัดเลือกหุ้นที่เป็น "ตัวท็อป" ของแต่ละอุตสาหกรรมทั่วโลกมารวมกันไว้ ด้วยความท้าทายของเศรษฐกิจโลกเวลานี้ ยังคงมีอยู่ไม่น้อย การกระจายการลงทุน ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ต้องมีควบคู่ไปกับการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างความสมดุลให้กับพอร์ตโดยรวม ลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้ การคัดเลือกลงทุนในกองทุนที่มีความสามารถรองรับได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าตลาดจะอยู่ในวัฎจักรของหุ้น Growth หรือ หุ้น Value จะช่วยทำให้พอร์ตการลงทุนมีความคงทนในทุกสภาวะ และสร้างความมั่นคงให้พอร์ตได้ในระยะยาว

4.ธีมอสังหาฯ ดอกเบี้ยขาลง จังหวะทองลงทุนอสังหาฯ แนะนำ กองทุน K-PROPIRMF เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แต่สำหรับเวลานี้ถึงเป็นจังหวะการลงทุนที่ไม่ควรพลาด วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นน่าจะจบลงแล้ว และกำลังเข้าสู่รอบดอกเบี้ยขาลงในอนาคต โดยทิศทางดอกเบี้ยขาลงนี้ จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินได้อย่างมาก ในขณะที่ Valuation ของ REIT ในไทย สิงคโปร์ และฮ่องกงยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยให้อัตราปันผลสูงกว่าผลตอบแทนตราสารหนี้ในแต่ละประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแรงหนุนที่จะให้ราคา REIT ทั่วโลกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

5.ธีมเทคฯ ผู้นำนวัตกรรม เปลี่ยนโลกไม่หยุด แนะนำ กองทุน K-GTECHRMF ปิดท้ายด้วยธีมยอดฮิตอย่างเทคโนโลยี ที่แม้ราคาจะขยับขึ้นพอสมควรแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือ Mega Trend ที่ยังเป็นจักรกลสำคัญในการขับเคลื่อนโลก และยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกไกลในระยะยาว ซึ่งในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีคือโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของโลก ทั้ง AI, Cloud และ Semiconductor กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทำให้หุ้นกลุ่มนี้มีศักยภาพในการสร้างกำไรเติบโตสูงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนพอร์ตเกษียณให้ชนะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว

ส่วนเรื่องความกังวล "ฟองสบู่" ในรอบนี้ มองว่ามีน้ำหนักค่อนข้างน้อย เนื่องจากราคาที่ปรับตัวขึ้นถูกขับเคลื่อนด้วย กำไรที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งต่างจากวิกฤติ Dot-com ในอดีตที่เป็นเพียงการเก็งกำไรบนความคาดหวังลอยๆ นอกจากนี้ หลายบริษัทเทคฯ ยังไม่หยุดนิ่งแต่ยังเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ทั้งการขยายฐานสู่ภูมิภาคใหม่ๆ เพื่อรองรับดีมานด์ที่พุ่งสูงขึ้น 

 

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP