WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม 2568 ติดต่อเรา
คลังของขึ้น!!!

20 มีนาคม 2560 : สองสามปีมานี้ผู้ออกกฏเกณฑ์ตลาดทุนมุ่งมั่นเป็นนักเป็นหนาที่จะสร้างธรรมภิบาลที่ดีให้กับตลาดทุนไทย และหลายฝ่ายก็พร้อมสนับสนุน แต่ก็ไม่วายที่จะสร้างความวุ่นวายให้กับตลาดทุนไทย จนวุ่นวายไม่เลิก รายย่อยถึงกับนั้งน้ำตาตกใน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ขนาดมาร้องเรียนถึงตลาดหลักทรัพย์ฯก็ไม่เป็นผล งานนี้ทำให้กระทรวงการคลัง เริ่มไม่ไหวกับพฤติกรรมบางกลุ่มที่สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุน ล่าสุด ถึงขั้นเริ่มมีแผนที่จะเพิ่มกฎเกณฑ์ในการสั่งสอนผู้บริหารบริษัทที่ก่อความวุ่นวาย

mof-logo

โดยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.จะต้องมีหน้าที่นำพาตลาดทุนไปข้างหน้า โดยจะต้องมีเป้าหมายของแต่ละปีที่จะทำ และจะต้องเป็นผู้ชี้ทางให้ตลาดทุนว่าในอีก 10-20 ปีข้างหน้าจะมีแนวทางอย่างไร

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ร่วมมือกับก.ล.ต. เพื่อร่วมกันแก้ไขกฎหมาย เพิ่มอำนาจก.ล.ต.ให้มีอำนาจในการจัดการ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับตลาดทุนได้ทันท่วงที เช่น หากกรรมการ หรือผู้ถือหุ้น ทำอะไรให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวมก.ล.ต.สามารถเข้าไปบริหารจัดการได้ หรือ เรียกว่าเป็นการติดดาบให้กับก.ล.ต. ซึ่งหากแก้ไขสำเร็จเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตลาดทุนมากขึ้น โดยคาดว่าจะเสนอให้ครม.พิจารณาได้ในช่วงกลางเดือนเมษายน 2560

ด้าย นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ออกมาให้ข่าวว่า ก.ล.ต. ออกหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance Code: CG Code) สำหรับบริษัทจดทะเบียนฉบับใหม่ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมุ่งเน้นบทบาทการเป็นผู้นำองค์กร นำพาธุรกิจไปสู่การเจริญเติบโตด้วยการสร้างคุณค่ากิจการอย่างยั่งยืน บริษัทจดทะเบียนไทยมีพัฒนาการด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาโดยตลอด

SEC_rapee

โดยหลักการกำกับดูแลกิจการที่ใช้อยู่เดิมเน้นในเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบธุรกิจ แต่เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนต้องเผชิญกับความท้าทายที่มากขึ้น ทั้งเรื่องการสร้างผลตอบแทนให้กับธุรกิจ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพแวดล้อม เทคโนโลยี รวมทั้ง ความคาดหวังความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น คณะกรรมการบริษัทในฐานะผู้นำที่ต้องรับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจ (governance body) จึงต้องดูแลให้บริษัทมีกลไกที่จะดูแล (govern) ให้การตัดสินใจและการดำเนินงานต่าง ๆ ของทุกคนในองค์กรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้ธุรกิจปรับตัว เติบโต และสร้างคุณค่าให้แก่กิจการควบคู่ไปกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสังคมโดยรวม

CG Code เป็นหลักปฏิบัติสำหรับคณะกรรมการบริษัท โดยมุ่งหวังให้กิจการมีผลประกอบการที่ดีโดยคำนึงถึงความต่อเนื่องในระยะยาว มีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น ผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สังคม สิ่งแวดล้อม ตลอดจนสามารถปรับตัวได้ภายใต้การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ซึ่งบทบาทความเป็นผู้นำของคณะกรรมการตาม CG Code นี้ ครอบคลุมตั้งแต่ (1) การกำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมายของกิจการที่เป็นไปเพื่อสร้างคุณค่าให้กิจการอย่างยั่งยืน

(2) การดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย ด้วยการมีคณะกรรมการที่เอื้อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ดูแลและพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรให้มีความสามารถ ส่งเสริมนวัตกรรมและการประกอบธุรกิจอย่างรับผิดชอบ และ (3) การติดตามและเปิดเผยข้อมูลโดยดูแลให้มีระบบควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม การรักษาความน่าเชื่อถือทางการเงินและการเปิดเผยข้อมูล ตลอดจนการมีส่วนร่วมและการสื่อสารกับผู้ถือหุ้น

ก.ล.ต. คาดหวังว่า คณะกรรมการบริษัทจะนำหลักปฏิบัติ CG Code ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพทางธุรกิจ (apply or explain) โดยหากเรื่องใดที่คณะกรรมการพิจารณาด้วยความรอบคอบและระมัดระวังแล้วเห็นว่า ยังไม่เหมาะสมที่จะนำไปปรับใช้ ก็ให้อธิบายเหตุผลหรือมาตรการทดแทน และบันทึกไว้ในรายงานการประชุมคณะกรรมการบริษัท ส่วนการเปิดเผยข้อมูลในรายงานประจำปี และแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) รวมทั้งการประเมิน CGR ยังเป็นไปตามแนวปฏิบัติเดิม ซึ่งได้นำมารวมเป็นส่วนหนึ่งของ CG Code นี้แล้ว

“อยากให้คณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนเห็นว่า การมี CG ที่ดี และการนำ CG Code ไปปรับใช้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของบริษัทเอง โดยผู้ถือหุ้น ลูกค้า และผู้ที่เกี่ยวข้องก็จะได้ประโยชน์ควบคู่กันไปด้วย CG Code นี้จะช่วยให้คณะกรรมการบริษัทเข้าใจบทบาทของตนในการนำพาให้บริษัทบรรลุวัตถุประสงค์ที่ดี สามารถปรับตัวได้ และนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจตามสมควร สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ หรือไทยแลนด์ 4.0 ที่มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่ม การนำนวัตกรรมมาใช้ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายรพี กล่าว

นายรพี กล่าวว่า การออก CG Code นี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ก.ล.ต. และองค์กรในตลาดทุนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมป์ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย โดยองค์กรที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ จะช่วยกันหามาตรการรองรับ สนับสนุนให้บริษัทสามารถนำ CG Code ไปพัฒนาใช้ในบริษัทต่อไปด้วย

Kesara

ขณะเดียวกัน นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งพัฒนาตลาดทุนด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มและส่งเสริมคุณค่าตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของภาครัฐ Thailand 4.0 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

ดังนั้น แผนการดำเนินงานปี 2560 ของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะส่งเสริมธุรกิจให้ดำเนินกิจการและเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี ส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ที่เป็นจุดแข็งของประเทศให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด (new S-curve) สนับสนุน startup ในหลายมิติเพื่อให้ผู้ประกอบการเหล่านี้มีความเข้มแข็งและเติบโต สร้างโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุนที่นำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และส่งเสริมผู้ลงทุนให้พิจารณาธุรกิจที่มีการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ตลอดจนสร้างความรู้ทางการเงินเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคต ทั้งนี้ เนื่องจากการเติบโตที่ยั่งยืนของประเทศต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและคนในประเทศให้เติบโตไปพร้อม ๆ กันlogo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP