WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม 2568 ติดต่อเรา
บิทคอยน์กับดักฟองสบู่ ##

18 ธันวาคม 2560 : ช่วงปีสองปีนี้ Bitcoin (บิทคอยน์) เข้ามามีบทบาทในแวดวงการลงทุนไม่น้อย เชื่อว่า หลายคนได้ยินเพียงแค่ผ่านหู แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจมากนัก ว่ามันคืออะไรกันแน่ ล่าสุดที่ผ่านมา มีกูรูด้านการลงทุน ได้ออกมาเตือนนักขุดบิทคอยน์ในปัจจุบันมากขึ้น หลังจากเห็นแนวโน้มราคาบิทคอยน์ขยับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก การลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงสูง เพราะยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูและควบคุม

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก Bitcoin (บิทคอยน์) กันแบบคราวๆ กันก่อนว่าเป็นอย่างไร

Bitcoin บิทคอยน์ คือสกุลเงินในรูปแบบของดิจิทัล ถูกสร้างขึ้นมาด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ Bitcoin ไม่มีรูปร่างและไม่สามารถจับต้องได้เหมือนธนบัตรหรือเหรียญเงินบาท Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาด้วยกลุ่มนักพัฒนาเล็กๆกลุ่มหนึ่งตลอดจนบริษัทใหญ่ๆทั่วโลก โดยระบบของ Bitcoin ถูกรันโดยคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานทั่วโลก โดยใช้ระบบซอฟต์แวร์ในการถอดสมการคณิตศาสตร์

b01

Bitcoin ถือเป็นสกุลเงินแรกของโลกที่ถูกเรียกว่าคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency)

อะไรทำให้ Bitcoin แตกต่างจากสกุลเงินทั่วๆ ไป ซึ่ง Bitcoin สามารถใช้แทนเงินสดซื้อสินค้าออนไลน์ อาจคล้ายกับระบบซื้อขายผ่านอินเทอร์เนตทั่วๆ ไปที่ใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต

อย่างไรก็ตาม ความพิเศษของ Bitcoin ที่เป็นตัวช่วยให้มันเป็นที่นิยมคือมันถูกควบคุมแบบกระจาย (decentralize) กล่าวคือไม่มีสถาบันการเงินไหนสามารถควบคุมบิมคอยน์ได้ ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนที่เลือกใช้ Bitcoin ส่วนใหญ่สบายใจเนื่องจากแม้แต่ธนาคารก็ไม่สามารถควบคุม Bitcoin ได้

ส่วนคนสร้าง Bitcoinขึ้นมา คือ นักพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ผู้ใช้นามแฝงว่าซาโตชิ นาคาโมโตะเป็นผู้พัฒนา Bitcoin ขึ้นมาซึ่งเป็นระบบจ่ายเงินที่อ้างอิงอยู่บนการถอดสมการคณิตศาสตร์ โดยจุดประสงค์ของเขาคือการสร้างสกุลเงินที่เป็นอิสระจากรัฐบาลและธนาคาร, สามารถส่งหากันผ่านระบบอินเทอร์เนตและมีค่าธรรมเนียมที่ถูกมากๆ

ระหว่างช่วงที่ Bitcoin กำลังฮอตฮิต สิ่งที่น่ากลัวก็กำลังจะตามเช่นกัน ล่าสุด นายวิน พรหมแพทย์ CFA บลจ.ซีไอเอ็มบีฯ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ Bitcoin ว่า สถานการณ์ Bitcoinในตอนนี้ คล้ายกับฟองสบู่ทิวลิปในอดีต

นายวิน ได้กล่าวว่า ในวันที่ราคา Bitcoin พุ่งสูงจนเท่ากับซื้อรถได้ทั้งคัน ทำให้นึกถึงเรื่อง Tulip Mania คือ เมื่อประมาณ 400 ปีก่อน มีการนำเมล็ดพันธุ์ทิวลิปจากตุรกีเข้าไปทดลองปลูกที่ยุโรป จนได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เนเธอร์แลนด์ คนดัชในยุคนั้นคลั่งไคล้การปลูกทิวลิป ทั้งเพื่อความสวยงาม ทำเป็นอาชีพ และเป็นสินค้าส่งออกไปต่างประเทศ

บิทคอยน์002

กว่าจะได้เห็นดอกทิวลิปสวยๆ ที่จะบานเพียง 1-2 สัปดาห์ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน เกษตรกรต้องคอยประคบประหงมหัวดอกทิวลิป (Tulip Bulb) และด้วยความนิยมจากลูกค้าที่ปารีสและในเมืองใหญ่ๆ ทำให้มีพ่อค้ามาขอซื้อดอกทิวลิปล่วงหน้าตั้งแต่ยังเป็น bulb จนก่อให้เกิดตลาดซื้อขายล่วงหน้า หรือ Futures Market แห่งแรกในโลก

ราคาซื้อขาย bulb ในตลาดล่วงหน้าปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แรกๆ ก็เป็นความคลั่งไคล้ทิวลิปที่สวยงามและหายาก แต่ต่อมาก็เกิดการเก็งกำไร (Speculation) จากความโลภล้วนๆ มีคนเปรียบเทียบว่า ราคาซื้อขายสัญญา bulb เพียง 1 หัว มีค่าเท่ากับค่าจ้างแรงงานที่คนงาน 1 คนได้รับเป็นเวลา 10 ปี

ช่วงที่พีคมากๆ มีคนเสนอยกที่ดินจำนวน 30 ไร่ แลกกับ 2 bulb และมีการหมุนซื้อขายสัญญามากถึง 10 รอบใน 1 วัน การเก็งกำไรขยายวงไปยังคนจำนวนมาก คนที่ไม่มีเงินก็ไปกู้เงินมาเล่นกับเค้าด้วย ทั้งหมดนี้คือการซื้อขาย “สัญญากระดาษ” โดยไม่มีใครได้เห็น bulb ของจริงเลย

ในที่สุด “ฟองสบู่ทิวลิป” ก็แตกในปี 1637 ทำให้คนเจ็บตัวกันเยอะ โดยเฉพาะพวกที่กู้เงินมาเล่น นับเป็นเหตุการณ์ “ฟองสบู่แตก” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก แต่มีข้อมูลว่า ฟองสบู่ทิวลิปมีผลกระทบเฉพาะกับคนที่เข้ามาเก็งกำไร ไม่ได้ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์มากนัก

ส่วนมุมมองของนักวิเคราะห์ที่มีต่อ Bitcoin โดยต่างคาดว่า Bitcoin จะพุ่งแตะ 100,000 ดอลลาร์ในเวลาอีก 1 ปีครึ่ง

นายเคย์ ฟาน-ปีเตอร์สัน นักวิเคราะห์สกุลเงินดิจิทัล กล่าวว่า ในสถานการณ์ช่วงขาลง เราอาจเห็นบิตคอยน์ทรุดตัวลงถึง 50% และยังคงมีความหวังว่า บิตคอยน์จะยังคงปรับตัวขึ้นในระยะยาว โดยอาจมีมูลค่าแตะ 50,000-100,000 ดอลลาร์ภายในเวลาอีก 18 เดือน

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บิตคอยน์มีมูลค่าไม่ถึง 1,000 ดอลลาร์ แต่สามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 5,000 ดอลลาร์ในเดือนต.ค. และพุ่งขึ้นเหนือ 11,000 ดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 2 เดือนหลังจากนั้น

ทั้งนี้ บิตคอยน์ได้แรงหนุนจากการที่คณะกรรมาธิการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ของสหรัฐมีมติอนุมัติให้เปิดการซื้อขายสัญญาบิตคอยน์ของ Chicago Mercantile Exchange (CME) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ CBOE Global Markets Inc หลังจากที่ CME และ CBOE สามารถแสดงให้เห็นว่าการซื้อขายสัญญาบิตคอยน์สอดคล้องกับกฎระเบียบควบคุมการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ของสหรัฐ

CBOE จะเริ่มการซื้อขายสัญญาบิตคอยน์ในวันอาทิตย์ที่ 10 ธ.ค. 60 ขณะที่ CME จะเริ่มทำการซื้อขายสัญญาบิตคอยน์ในวันจันทร์ที่ 18 ธ.ค. 60 นี้ขณะเดียวกัน Nasdaq Inc ก็มีแผนที่จะเปิดการซื้อขายสัญญาบิตคอยน์ในปีหน้าเช่นกัน logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP