4 มกราคม 2561 : นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจปี 2561 ที่มีความท้าทายในหลายเรื่อง ความท้าทายเรื่องแรก คือ อัตราดอกเบี้ยต่ำ บริษัทประกันภัยก็จะหันไปเน้นขายสินค้าประเภทประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked Insurance Policy) แต่ประกันรูปแบบนี้ก็ต้องสร้างระบบและกระบวนการเข้ามารองรับ รวมถึงพัฒนาตัวแทนให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่มีศักยภาพ ความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน ซึ่งนับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการประกันหลักๆ ส่วนหนึ่งคือ ความคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นการประกันแบบระยะยาว หรือระยะสั้น รวมถึงประกันโรคร้ายแรง อุบัติเหตุและประกันสุขภาพที่ภาครัฐให้การสนับสนุนเพิ่มขึ้นก็ตาม ล้วนมาจากปัจจัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ
นอกเหนือจากนี้ ประเด็นที่ 2 ปัจจัยของสังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น (Aging Society) บริษัทประกันก็ต้องแนะนำผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับคนกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น กรมธรรม์แบบบำนาญ หรือ ประกันแอนนิวตี้ คนสูงวัยสามารถมีเงินรองรับหลังเกษียณอายุ ซึ่งสมาคมประกันชีวิตไทย มีการคำนวณแล้วผู้สูงอายุจะใช้ประมาณ 4 ล้านบาท ถ้าหากเป็นเด็กจะต้องเริ่มเก็บออม 4,000 บาท/เดือน แต่เด็กปัจจุบันไม่คิดจะเก็บเงิน 4,000 บาท/เดือน เพื่อให้มี 4 ล้านบาทตอนบั้นปลายชีวิต ฉะนัันปัญหาในการใช้จ่ายจะเกิดขึ้น
ประเด็นที่ 3 คือ ความท้าทายที่เกิดจากหน่วยงานกำกับดูแล หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ตามมาตรฐานตารางมรณะใหม่ ทำให้อัตราเบี้ยประกันถูกปรับลดลง จุดนี้จะส่งผลให้อัตราการเติบโตก็จะลดลง เช่น ทุนประกันเท่าเดิมแต่เบี้ยประกันลดลง ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ เริ่มหันมาจับตากันแล้วว่าเรื่องนี้จะทำให้อัตราการเติบโตลดลงมากน้อยหรือไม่อย่างไร
ประเด็นที่ 4 เรื่อง มาตรฐานรายงานทางบัญชีรูปแบบใหม่ ฉบับที่ 9 และ 11 หรือ (IFRS 9, IFRS 17) ซึ่งฉบับที่ 9 เป็นการประเมินเรื่องทรัพย์สินบริษัทประกัน ซึ่งจะมีผลในปี 2562 แต่ก็สามารถขอขยายเวลาในการบังคับใช้ออกไปอีกระยะหนึ่ง ส่วน IFRS 17 คือเรื่อง สัญญาประกันภัยซึ่งออกมาสำหรับบริษัทประกันภัยโดยเฉพาะ (Liability) นั่นหมายถึงว่า บริษัทประกันภัยจะออกผลิตภัณฑ์อะไรมานั้นก็ต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น โดยจะมีผลในอีก 5 ปีข้างหน้า
“ทิศทางในปี 2561 ถือว่าเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น มีสัญญาณที่จะส่งผลให้ธุรกิจประกันภัยก็เติบโต แต่จะดีกับคนระดับกลาง-ระดับบน สำหรับกลุ่มคนในระดับล่าง ยังไม่คิดว่าจะดีมากมายนัก แต่เบี้ยประกันที่ถูกปรัลลดลงมามาก นั่นหมายถึงตัวแทนต้องแนะนำให้เขาซื้อในทุนประกันที่เพียงพอ ให้ประชาชนทุกระดับสามารถเข้าถึงการทำประกันภัยได้” นางนุสรากล่าวสรุป