16 มกราคม 2561 : นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวม 13,500 ล้านบาท เติบโต 10% โดยมีสัดส่วนเบี้ยรับประกัน แบ่งเป็นมอเตอร์ 52% และนอน-มอเตอร์ 48% ทั้งนี้ ปัจจุบัน MTI เป็นบริษัทประกันวินาศภัยอันดับ 4 ในอุตสาหกรรม และตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปีข้างจะขึ้นเป็นอันดับ 3 ของอุตสาหกรรม

ขณะเดียวกันยังมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขยายช่องทางการขายออนไลน์ผ่านระบบดิจิทัล เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลากหลายประเภท โดยเน้นผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัยรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ ในด้านประกันรถยนต์เน้นแบบประกัน 2+ และ 3+ ซึ่งเพิ่มความคุ้มครองครอบคลุมความเสียหายของรถที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ซึ่งแต่เดิมจะคุ้มครองเฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น

ทั้งนี้ บริษัทยังพัฒนาให้มีประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองเพิ่มจากประกันรถยนต์ปกติ เช่น เงินชดเชยระหว่างรถเข้าซ่อม เงินชดเชยรายวัน เงินชดเชยทรัพย์สินภายในกรณีรถถูกโจรกรรม เป็นต้น

ด้านประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งเป็นแผนประกันภัยสำหรับวัยทำงาน ครอบครัว และเด็ก ที่มีจุดเด่นที่ต่างกันในแต่ละแผน โดยแผนครอบครัวมีทุนประกันภัยหลักถึง 1 ล้านบาท พร้อมความคุ้มครองคู่สมรส และบุตรสูงสุด 2 คน อีกทั้งยังร่วมโครงการเพื่อส่งเสริมการประกันสุขภาพ ที่ให้ประชาชนสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพมาหักลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 15,000 บาท รวมถึงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ อีกด้วย

ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นช่องทางการขายผ่านออนไลน์ E-Commerce ผ่านช่องทาง MTI connect ที่ให้บริการขายประกันออนไลน์ครบวงจร โดยบริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยสำหรับการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งถือว่าเป็นปีแรกอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท

นางนวลพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทให้ความสำคัญ และเน้นย้ำในเรื่องการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งเป็นที่จดจำมากขึ้น เพื่อขยายการเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มคน Gen Y ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป โดยใช้การสื่อสารภาพลักษณ์ที่ทันสมัยเข้าถึงง่าย ผ่านช่องทางดิจิทัล และโซเชียลมีเดีย โดยมีการวางกรอบกลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์ ภายใต้แนวคิดหลัก Engaged Brand เพื่อตอกย้ำ Positioning brand เมืองไทยประกันภัยที่เน้นการเข้าถึง

โดยในปีนี้จะมีการพัฒนาการสื่อสารผ่านช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้มีรูปแบบที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตส์ของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มลูกค้าเดิม และลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็น Gen Y ซึ่งกำหนดทิศทางการสื่อสารให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคการตลาดดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูงและรวดเร็ว

ทางด้าน นางปุณฑริกา ใบเงิน กรรมการรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมด 11,000 ล้านบาท โดยนโยบายการบริหารพอร์ตลงทุนของบริษัทจะระมัดระวังในการลงทุน ไม่หวือหวา และหากจะลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงสูง จะเน้นลงทุนหุ้นที่อยู่ใน SET50 หรือการลงทุนที่เป็นไปตามเกณฑ์ภายในที่ลงทุนในตราสารของบริษัทในเครือที่ถือหุ้นอยู่ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวก็จะเป็นไปตามสัดส่วนในภาพรวม

สำหรับสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี้ประมาณ 60% หุ้น-พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ประมาณ 30% เงินฝาก 10% ส่วนผลตอบแทนที่คาดหวังในปีนี้ยังใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 4-6%