WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันพุธ ที่ 10 ธันวาคม 2568 ติดต่อเรา
บลจ.กสิกรไทย แนะ 4 กองทุนเด่นเน้นเสริมสมดุลพอร์ต กระจายเสี่ยงเลี่ยงผันผวน

7 กุมภาพันธ์ 2566 : นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ตลาดทุนในปัจจุบันยังมีความผันผวนสูง อันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว และผลกระทบจากการใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อ ดังนั้นการลงทุนภายใต้ภาวะตลาดเช่นนี้ ผู้ลงทุนควรใช้หลักกระจายการลงทุน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพียงสินทรัพย์เดียว

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ขอแนะนำ 4 กองทุนเด่นที่เน้นกระจายการลงทุน ได้แก่ K-GINCOME-A(R), K-GINCOME-A(A), K-PLAN2 และ K-PLAN3 

นายสุรเดชกล่าวต่อไปว่า ความแตกต่างระหว่างกองทุน K-GINCOME และ K-PLAN อยู่ที่ K-GINCOME เน้นกระจายลงทุนในต่างประเทศ ส่วน K-PLAN เน้นกระจายลงทุนในประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ กองทุน K-GINCOME มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Investment Funds – Global Income Fund, Class I (mth) - USD (hedged)ที่เน้นกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายกว่า 3,000 ตัวทั่วโลก มีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่

K-GINCOME-A(R) แบบรับซื้อคืนอัตโนมัติ ผู้ลงทุนจะได้รับรายได้ระหว่างการลงทุน ซึ่งรายได้นั้นไม่ต้องเสียภาษี และ K-
GINCOME-A(A) แบบสะสมมูลค่า ผลตอบแทนจะสะสมเข้าพอร์ตของกองทุนเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรต่อไป

สำหรับกองทุน K-PLAN มีนโยบายลงทุนที่เน้นกระจายลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ในไทยเป็นหลัก และลงทุนในต่างประเทศบางส่วน โดย K-PLAN2 เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการมองหาโอกาสทำกำไรเพิ่มเติมจากหุ้น แต่ยังคงรับความเสี่ยงได้ไม่สูงมาก จึงเน้นลงทุนในตราสารหนี้ไทยเป็นสัดส่วนหลักประมาณ 70% ของพอร์ต

ส่วน K- PLAN3 เหมาะกับผู้ที่อยากลงทุนหุ้นในสัดส่วนที่มากขึ้นแต่ยังมีความกังวลต่อสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกที่มีความผันผวนสูงจึงกลับมาเน้นลงทุนหุ้นไทยในสัดส่วนไม่เกิน 55% ของพอร์ต อย่างไรก็ดีบลจ.กสิกรไทย แนะนำให้เข้าลงทุนในกองทุนทั้ง 4 ได้ทุกช่วงเวลา ดังนั้นผู้ลงทุนจึงสามารถลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนผ่านการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน(Dollar Cost Average : DCA) ผ่าน App K-My Funds เพื่อฝึกวินัยทางการเงิน

อีกทั้งการลงทุนในกองทุนผสมที่เน้นกระจายการลงทุนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพอร์ตได้ดีในทุกสภาวะตลาด เนื่องจาก
สินทรัพย์แต่ละประเภทมีการเคลื่อนไหวของราคาที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลายกตัวอย่างเช่น หุ้นมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวส่วนตราสารหนี้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว เป็นต้น

“ปัจจุบันตลาดได้สะท้อนความคาดหวังต่อสัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงไปแล้วโดยในระยะถัดไปให้จับตาการกลับมาของสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นซึ่งขึ้นกับอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่คาดว่าใกล้แตะระดับสูงสุดแล้วและการปรับประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มผ่านจุดต่ำสุดแล้ว อย่างไรก็ดี การทยอยเปิดประเทศในกลุ่มเอเชียจะนำไปสู่พัฒนาการการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าฝั่งสหรัฐฯและยุโรป อีกทั้งยังมีปัจจัยสนับสนุนระยะยาวจากการบริโภคอันมหาศาลและแรงขับเคลื่อนทางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี

สำหรับตลาดหุ้นไทย ยังคงมีความน่าสนใจโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคของภาคเอกชนซึ่งเป็นแรงส่งสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยที่คาดการณ์ GDP ปี 2566 ไว้ที่ 3.7%ด้านตลาดตราสารหนี้ไทยในปัจจุบันได้สะท้อนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับประมาณ2.0-2.5% แล้วส่งผลให้ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ไทยยังอยู่ในระดับที่สามารถเข้าลงทุนได้”นายสุรเดชกล่าว

นายสุรเดชกล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.กสิกรไทย ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษในระหว่างวันที่ 26ม.ค. 66 – 31 มี.ค. 66 โดยเมื่อลงทุนใน K-GINCOME-A(R), K-GINCOME-A(A), K- PLAN2 และ K-PLAN3 ผ่านทุกช่องทางของกสิกรไทย ทุก 100,000 บาท
จะได้รับหน่วยลงทุน K-GINCOME-A(A) 200 บาท (สูงสุด 1,000 บาท)พร้อมทั้งยังได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อ (Front-end Fee) เฉพาะ K-GINCOME-A(R) และ K-GINCOME-A(A) เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888หรือศึกษาเองที่เว็บไซต์ www.kasikornasset.com 

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP