21 สิงหาคม 2566 : คุณวรรณา โถนาค เจ้าหน้าที่การตลาดอาวุโส การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำประเทศฮ่องกง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวฮ่องกงเดินทางมาประเทศไทยประมาณ 50,000 คน/เดือน โดยช่วงเดือนเมษายนจะมียอดการเดินทางสูงสุด ถัดมาจะเป็นเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม 2566 รวมถึงช่วงวันหยุด และคริสมาสต์ โดยกลุ่มที่มีกำลังซื้อจะอยู่ในช่วง GEN X และ GEN Y แบ่งเป็นกลุ่มครอบครัว สตรี

ในช่วงครึ่งปี 2566 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวฮ่องกงเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยประมาณ 4.5 แสนคน (ม.ค.-กรกฎาคม 66) คาดว่าสิ้นปีนี้คงมีประมาณ 7 แสนคน แต่เมื่อเทียบกับช่วงปี 2563 ก่อนโควิดที่มีประมาณ 1 ล้านคน นอกจากนี้มีเป้าหมายว่าในปี 2567 จะหันมาจับกลุ่มคู่รักที่จัดงานแต่งงานในไทย เพิ่มขึ้นอีกกลุ่มหนึ่งด้วย

“อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวหลายคนชอบที่จะไปท่องเที่ยวช่วงวันหยุด วันศุกร์ - อาทิตย์ เช่น นักท่องเที่ยวที่เป็นคู่รัก หรือมาตีกอล์ฟ ทำสปา ทานอาหารคุณภาพดี ที่ได้ (Michelin Guide) เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อหัว 10,000 บาทต่อ/วัน” คุณวรรณา กล่าว

โดยประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางอันดับที่ 2 ของคนฮ่องกง อันดับแรกเป็นประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น ไทยก็ต้องเพิ่มมุดหมายในการขยายหรือต่อยอดของเส้นทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เพื่อดึงความสนใจไปสู่เมืองรอง เช่น แนะนำให้นักท่องเที่ยวบินเข้าเชียงใหม่ สามารถไปเที่ยวจังหวัดลำพูน ลำปาง เชียงรายได้ หรือบินเข้าจ.ภูเก็ตก็สามารถต่อยอดไปท่องเที่ยวที่ จ.กระบี่, พัทลุง และพังงา เป็นต้น

ปัจจุบันฮ่องกงพยายามที่จะเพิ่มเที่ยวบินเข้าประเทศไทย แต่ข้อจำกัดอยู่ที่ประเทศไทย เฉลี่ยขณะนี้มี 89 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จากเดิม 130 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิของไทยเปิดรับหลายประเทศเข้ามา จึงกำลังอยู่ช่วงการจัดสรรเวลาของสายการบินแต่ละประเทศ

ส่วนเป้าหมายรายได้ปี 66 มีนักท่องเที่ยว 7 แสนคน คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท เมื่อเที่ยบกับประชากรของฮ่องกงมีประมาณ 7 ล้านคน ซึ่งมาเที่ยวประเทศไทย 10% ของจำนวนประชาชากรก็ถือว่าจำนวนสูง สำหรับสถานท่องเที่ยวยังเป็นทีกรุงเทพฯ อันดับ 1 รองลงมาคือ จังหวัดภูเก็ต