31 มกราคม 2560 : “บล.KTBST ประเมินหุ้นไทยวันนี้ ( 31 ม.ค.) มีแนวโน้มผันผวนในกรอบแคบๆ และลดลงจากวันก่อน มีปัจจัยต่างประเทศยังกดดัน เน้นลงทุนหุ้นที่มีข่าวบวกเฉพาะตัว หุ้นที่น่าสนใจ BCH, LOXLEY , SCN , TNP PLAT”

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (31 ม.ค.) การออกนโยบาย (คำสั่ง) ใหม่ๆ ของประธานาธิบดี Trump ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลใจ ว่าทิศทางของสหรัฐฯจะไปในทางใด และจะมีผู้ต่อต้านเพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยล่าสุดจะเป็นช่วงสุดสัปดาห์ที่ระงับการออกวีซ่าของพลเมือง 7 ประเทศ ซึ่งอาจกลายเป็นประเด็นการเมืองระหว่างประเทศขึ้นมา การสูงขึ้นของราคาพันธบัตรและราคาทองคำ นอกจากจะมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์ น่าจะมาจากความกังวลต่อปัจจัยนี้ ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นอื่นๆ น่าจะถูกกดดันจากเรื่องนี้ ไปอีกระยะหนึ่ง

ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI แกว่งในกรอบ $52-53 เหรียญ ปัจจัยบวกในเรื่องการลดกำลังการผลิต ถูกถ่วงด้วยการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯที่สูงขึ้น (จำนวนการใช้แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 15 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา) อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่มีโอกาสขึ้นแตะ $55 และเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่า เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมี และส่งต่อไปถึงหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ด้วย

ส่วนปัจจัยในประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับประมาณ GDP ของไทย ปี 2559-60 ใหม่ โดยปี 2559 จาก 2.8% เป็น 3.2% และปี 2560 จาก 3.4% เป็น 3.6% โดยได้แรงขับเคลื่อนการการลงทุน-ใช้จ่ายภาครัฐฯ ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น ส่งออกและการใช้จ่ายภาคเอกชนสูงขึ้น การปรับตัวเลข GDP ของไทย เป็นปัจจัยหนุนตัวหลักๆ ของตลาดในปีนี้เลยทีเดียว

ทั้งนี้ สภาพัฒน์ฯ จะรายงานตัวเลข GDP Q4 ในวันที่ 20 ก.พ. ปัจจัยในประเทศตัวอื่นๆ จะเป็นเรื่องของการรายงานผลประกอบการ 4Q-59 และการเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นที่ถูกคาดว่าผลการดำเนินงานเติบโตดีกันมากขึ้นตามลำดับ

ดังนั้นทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ภาพรวมของตลาด ถูกกดดันด้วยความไม่แน่นอนหรือความเสี่ยงจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงน่าจะยังเห็นการขายทำกำไรที่มีเข้ามาในตลาด อีกทั้งนักลงทุนจะรอดูผลประชุม FOMC ที่จะทราบผลเช้าวันพฤหัส (2 ก.พ.) ทิศทางตลาดจึงเป็นผันผวนในกรอบแคบๆ และมีแนวโน้มที่จะลดลงจากวันก่อน

“ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน แม้ปัจจัยในประเทศจะดี จากแรงหนุนด้านเศรษฐกิจ แต่มีความเสี่ยงมาจากปัจจัยต่างประเทศ ซึ่งคาดจะมีผลต่อตลาดช่วงสั้นๆ กลยุทธ์การลงทุน สั้นๆ เรายังแนะนำ ให้เน้นเล่นหุ้นที่มีข่าวบวกเฉพาะตัวให้มากขึ้น และเลือกขายทำกำไรหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นมามาก (ราคาหุ้นไม่สอดคล้องกับปัจจัยฟื้นฐ่านหรือผลประกอบการของบริษัท) ในการเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ เช่น BCH, LOXLEY , SCN , TNP PLAT”