กรุงเทพฯ, 7 มีนาคม 2568 : นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2567 เติบโตเป็นที่น่าพอใจ มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 594,000 บัญชี เติบโต +6%, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 392,500 ล้านบาท เติบโต +8%, ยอดสินเชื่อใหม่ 95,500 ล้านบาท เติบโต +4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดสินเชื่อคงค้าง 146,200 ล้านบาท ดังนั้นปี 2568 จึงตั้งเป้า มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 652,500 บัญชี (+10%), ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 431,500 ล้านบาท (+10%), ยอดสินเชื่อใหม่ 108,800 ล้านบาท (+14%) และยอดสินเชื่อคงค้าง 158,500 ล้านบาท (+8%)

สำหรับมุมมองธุรกิจในปี 2568 นายอธิศ เปิดเผยว่า แม้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาล รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ Easy E-Receipt จะส่งผลดี กระตุ้นให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น แต่ในระยะยาวคาดว่า ธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวช้า อัตราส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ในระดับสูง แนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้และหนี้เสียที่แม้จะทรงตัว แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงมาตรการควบคุมจากภาครัฐ เป็นผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568  กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะยังคงมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ เพื่อคงความเป็นผู้นำในธุรกิจ โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 2. ขยายระบบนิเวศพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ 3. สร้างเสริมนวัตกรรมทางการชำระเงิน 4. ผสานความร่วมมือในเครือกรุงศรีเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และ 5. พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน พร้อมกับเสริมแกนย่อยให้มีความคมชัดมากขึ้น

กลยุทธ์หลัก 5 ประการ ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้แก่

1. มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อผ่อนชำระ ให้มีจุดเด่นและสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ายิ่งขึ้น พร้อมวางช่องทางการตลาดและการจำหน่ายที่เหมาะสม เช่น การปรับสิทธิประโยชน์หลักของบัตรเครดิตในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เช่น บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น

โดยแกนเสริมนั้นปีนี้จะเป็นปีที่มีการยกเครื่อง ปรับปรุง ปรับโฉมและอื่นๆ ของหลายหลายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครือกรุงศรีคอนซูมเมอร์ เริ่มจากกรุงศรีเฟิร์ส ช้อยส์ ก่อนได้แก่ สินเชื่อกรุงศรี ผ่อนชำระ 2  In 1หรือ  3 in 1 เนื่องจากจะกลับมาเติบโตในหมวดสินเชื่อผ่อนชำระ มากขึ้น เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยขยายตัวไปยังกลุ่มลูกค้าที่รัก และใช้แบรนด์กรุงศรีจริง รวมไปถึงไม่ผิดเวลาในการชำระคืน อีกทั้งยังมีการจัดแบ่งโซนบัตรเครดิตและ Sale Finance ให้ชัดเจนมากขึ้นเพื่อให้คนเห็นคุณค่าของโปรดักส์ Sale Finance มากขึ้น

ส่วนบัตรเครดิตทุกประเภทภายใต้ตระกูลกรุงศรี จะมีการปรับปรุง ยกระดับบัตรเครดิตหลักทั้งหมด  เช่นลูกค้าเข้ามาใหม่ เงินเดือน 15,000 บาท ก็จะได้รับบัตร แพลตินัม รวมถึงปรับปรุงบัตร เวลล์ แบงกิ้ง เช่น กรุงศรี เอ็กซ์ครูซีฟ และไพรเวส แบงกิ้ง คาดว่าจะเริ่มในช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป โดยวัตถุประสงค์หลักคือมีความคาดหวังให้ลูกค้าเลือกใช้เป็นบัตรแรกๆ และจะต้องมีการปรับกลยุทธ์และโปรโมชั่นในการใช้จ่ายผ่านบัตรด้วยให้ดีหรือเทียบเท่าบัตรอื่นๆ ในกระเป๋าสตางค์ของลูกค้า

2. ขยายระบบนิเวศพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ โดยขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งพันธมิตรหลักที่ร่วมออกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต ซึ่งอาจต่อยอดความร่วมมือในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เช่น ปรับโฉมบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวันใหม่ รวมถึง พันธมิตรแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ที่จะร่วมนำเสนอโปรโมชันที่ตอบ ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในทุกหมวดการใช้จ่าย โดยเน้นหมวดร้านอาหาร และแผนผ่อนชำระซึ่งจะขยายหมวดร้านค้าบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เช่น ร้านแว่นชั้นนำ, สัตว์เลี้ยง, สินค้า Luxury และค่าส่วนกลางที่อยู่อาศัย

"ปีนี้การทำโคแบรนด์ของเราจะมีการปรับเปลี่ยนโดยเฉพาะ เซ็นทรัล เดอะวัน เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างเต็มรูปแบบ โดยปรับไปถึงผลประโยชน์ตอบแทนภายในบัตรด้วยอะไรที่ดีจะเก็บไว้ส่วนอะไรที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้นก็จะทำคาดว่าจะเริ่มประมาณกลางปีนี้ ส่วนโลตัส มันนี่พลัส จะมีการปรับปรุงให้เป็นบัตรที่โดดเด่นขึ้นด้วย"

3. สร้างเสริมนวัตกรรมทางการชำระเงิน พัฒนานวัตกรรมทางการชำระเงินเพื่อเป็นทางเลือกในการชำระเงินที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ผ่านความร่วมมือกับผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลก เพื่อรักษาความเป็นบัตรเครดิตหลักที่ลูกค้าเลือกใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อคงไว้ซื้อเป็นบัตรแรกในกระเป๋าตังส์ของลูกค้า (Top of Wallet) โดยปีนี้จะพัฒนาความร่วมมือกับแบรนด์ดังระดับโลก(ผลไม้) เพื่อเพิ่มศักยภาพและทางเลือกในการใช้บัตรในเครือกรุงศรีคอนซูมเมอร์ให้ลูกค้ามากขึ้น 

4. ผสานความร่วมมือในเครือกรุงศรีเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยผสานความร่วมมือให้สอดคล้องและส่งเสริมเป้าหมายทางธุรกิจของเครือกรุงศรี เช่น ร่วมออกแบบสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Wealth ของธนาคาร, การนำเสนอบัตรเครดิตองค์กรให้กับลูกค้า SME หรือ Corporate Banking, การส่งเสริมให้ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายในเครือกรุงศรี เป็นต้น

5. พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยวางโครงสร้างและการบริหารทรัพยากรของหน่วยงานสนับสนุนให้สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจในอนาคตของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เพื่อลดค่าใช้จ่าย และพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานให้สามารถรองรับความเติบโตในอนาคตได้

“กลยุทธ์ทั้งห้าประการนี้เป็นไปเพื่อเสริมศักยภาพของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เพื่อสร้างความเติบโตอย่างมีคุณภาพและรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจการเงิน แต่การเติบโตก็มีคำถามว่า เมื่อมีการเติบโตลอสก็สูงขึ้นดังนั้นควรบาลานซ์การเติบโตให้ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเน้นเรื่องคุณภาพของลูกค้า และสิ่งที่เราปล่อยออกไปด้วย"

ทั้งนี้ ในปี 2568 บริษัทตั้งเป้า มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 652,500 บัญชี (+10%), ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 431,500 ล้านบาท (+10%), ยอดสินเชื่อใหม่ 108,800 ล้านบาท (+14%) และยอดสินเชื่อคงค้าง 158,500 ล้านบาท (+8%)” นายอธิศ กล่าว

"ในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีนโยบายในการลดต้นทุน ซึ่งมาถึงปีนี้เริ่มเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น การปรับปรุงใบแจ้งยอดบัญชีจากเดิมส่งเป็นกระดาษ แต่ปัจจุบันส่งในรูปแบบ E-Statment 90% แล้ว เหลือที่ยังเป็นกระดาษอีกเพียง 10%เท่านั้น รวมไปถึงล่าสุดยังมีการปรับโครงสร้างทีมขายโทรศัพท์ (Telesale) เพื่อเพิ่มศักยภาพและยอดขายในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้มากขึ้น อีกทั้งยังปรับปรุงและเพิ่มช่องทางการขายประกันผ่านช่องทาง Face to Face ผ่านช่องทางพาร์ทเนอร์โควแบรนด์ อาทิ เซ็นทรัล จึงพยายามผลักดันให้พนักงานขายทุกคนมีใบอนุญาต ซึ่งขณะนี้สอบผ่านประมาณ 30-40% ส่วนโฮมโปรก็จะมีแล้วทั้งหมด โดยจะขายประกันอุบัติเหตุในเบื้องต้น"

สำหรับ ผลประกอบการในปี 2567 ที่ผ่านมาของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เติบโตเป็นที่น่าพอใจ จากความสำเร็จในการเดินกลยุทธ์ของบริษัท โดยมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 594,000 บัญชี เติบโต +6%, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 392,500 ล้านบาท เติบโต +8%, ยอดสินเชื่อใหม่ 95,500 ล้านบาท เติบโต +4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดสินเชื่อคงค้าง 146,200 ล้านบาท ทั้งนี้ หมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่

1. ประกันภัย, 2. ไฮเปอร์มาร์ท ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ, 3. ปั๊มน้ำมัน, 4. ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน และ 5. ช้อปออนไลน์ ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ตัวแทนท่องเที่ยว, 2. โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน, 3. ช้อปออนไลน์, 4. แอปดิลิเวอรี และ 5. สุขภาพและความงาม ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.6% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ นับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ อันเป็นผลจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม