16 กุมภาพันธ์ 2560 : นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ปีนี้ คาดว่าจะเติบโตกว่าช่วงปีทีผ่านมาประมาณ 8% หรือคิดเป็นเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 100,000 ล้านบาท ส่งผลให้ AUM ปีนี้มีโอกาสแตะที่ระดับกว่า 1.4 ล้านล้านบาท
ส่วนแผนลงทุนบริษัทในปีนี้ ยังคงเป้าหมายเป็นบลจ.ที่ 1 ในใจลูกค้า หรือ The Most Admired Asset Management ซึ่งสอดคล้องและเป็นทิศทางเดียวกันกับธนาคารไทยพาณิชย์ที่วางเป้าหมายในการเป็นธนาคารแห่งอนาคตที่ลูกค้าชื่นชมและยอมรับ รวมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายพร้อมการบริการที่เหมาะสมกับลูกค้า นอกจากจะมุ่งขยายฐานไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Digital Age ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่แล้ว ยังต้องการเพิ่มจำนวนลูกค้าที่ Active มากขึ้นด้วยเพราะพอร์ตการลงทุนที่ไม่เคลื่อนไหวอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาด รวมทั้งยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้ออกกองทุนกลุ่ม Income ไปแล้วคือ กองทุน SCBGIN และ กองทุน SCBMPLUS
“การฝึกอบรมพนักงานมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันบลจ.ไทยพาณิชย์ ก็ปรับผลิตภัณฑ์ให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม และภาวะตลาดการเงินปีนี้ด้วย เพราะขณะนี้ผลตอบแทนดอกเบี้ยเงินฝากไม่เพียงพอ ทำให้ลูกค้าต้องการทางเลือกอื่นๆเพิ่มขึ้น การให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนโดยบุคลากรที่มีใบอนุญาตและความรู้ความเชี่ยวชาญ จะก่อให้เกิดประโยชน์และเป็นผลดีกับลูกค้าในที่สุด” นายสมิทธ์ กล่าว
นายสมิทธ์ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานบริษัทช่วงปี 59 ที่ผ่านมา บริษัทมี AUM รวม 1,307,408 ล้านบาท ยังคงเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 20.52% เติบโตจากปี 58 คิดเป็นอัตรา 12% ที่มี AUM รวม 1,163,079 ล้านบาท กองทุนของบริษัทมีการเติบโตมากที่สุดในกลุ่มธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) โดยมี AUMสูงถึง 325,122 ล้านบาท เติบโต 33% จากสิ้นปี58 ทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 43.60% และยังครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องจากปี 57
ส่วนธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) มี AUM อยู่ที่ 120,111 ล้านบาท เติบโต 2% จากปี 58 และธุรกิจกองทุนรวมมี AUM ที่ 862,174 ล้านบาท ซึ่งรวมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure Fund มูลค่ารวม 84,325 ล้านบาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 56,407 ล้านบาท
ช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทตั้งเป้าหมายในการผลักดันผลการดำเนินงานกองทุนให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือว่าประสบผลสำเร็จมีกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในหลายสินทรัพย์ โดยข้อมูล ณ เดือนธ.ค.59 อาทิ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Cap หรือ SCBMSE ที่ลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีผลตอบแทนในปี59 อยู่ที่ 33.74% เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมกองทุนประเภท Equity Small-Mid Cap ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ หรือ SCBSE ที่เน้นการคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีความสามารถที่จะเติบโตได้ดีกว่าตลาด
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 59 อยู่ที่ 23.88% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 19.79% รวมทั้งยังได้นำเสนอกองทุนกลุ่ม Income ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาด คือกองทุน SCBPLUS และกองทุน SCBGPLUS ที่เน้นผสมสินทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลกสามารถสร้างรายได้ระหว่างทางซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นที่ต้องการของนักลงทุน โดยสิ้นปี 59 มีเงินไหลเข้ากองทุนประเภทนี้กว่า 46,800 ล้านบาท
