8 ธันวาคม 2568 : “ทองคำ” ถือ เป็นสินทรัพย์ที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจโลกมาอย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นโลหะมีค่าที่ใช้ทั้งในการออม การลงทุน และการสำรองความมั่นคงทางการเงิน ปัจจุบัน นอกจากการลงทุนในทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณแล้ว นักลงทุนยังสามารถลงทุนผ่าน “หุ้นเหมืองทอง” ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการสำรวจ การขุด และการผลิตทองคำ

การลงทุนในหุ้นเหมืองทองถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวนหรือเกิดภาวะเงินเฟ้อ เพราะราคาทองคำมักมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นเหมืองทองย่อมมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่นักลงทุนควรศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

ข้อดีของการลงทุนในหุ้นเหมืองทอง คือ

1. มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง หากราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น กำไรของบริษัทเหมืองทองมักเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวสูงกว่าการลงทุนในทองคำโดยตรง

2. ช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน หุ้นเหมืองทองมักเคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดหุ้นทั่วไปในบางช่วง จึงช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุนได้ดี

3. สามารถรับผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผล บริษัทเหมืองทองบางแห่งมีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ทำให้นักลงทุนมีรายได้ระหว่างถือหุ้น

4. เหมาะกับช่วงเศรษฐกิจผันผวนและเงินเฟ้อ เมื่อค่าเงินอ่อนหรือเกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ราคาทองคำมักปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มเหมืองทอง

ขณะที่ข้อเสียของการลงทุนในหุ้นเหมืองทอง คือ

1. ความผันผวนสูงกว่าทองคำจริง ราคาหุ้นเหมืองทองไม่ได้ขึ้นลงตามราคาทองคำเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับผลประกอบการ ต้นทุนการผลิต และการบริหารจัดการของบริษัทด้วย

2. มีความเสี่ยงจากปัจจัยเฉพาะของบริษัท เช่น ปัญหาด้านแรงงาน อุบัติเหตุในเหมือง กฎหมายสิ่งแวดล้อม หรือความไม่มั่นคงทางการเมืองในพื้นที่ทำเหมือง

3. ต้นทุนการผลิตมีผลต่อกำไรสูง ต้นทุนด้านพลังงาน ค่าแรง และเครื่องจักร หากปรับตัวสูงขึ้น อาจกระทบต่อกำไรของบริษัทและราคาหุ้น

4. ต้องใช้ความรู้ในการวิเคราะห์มากกว่าทองคำแท่ง นักลงทุนต้องวิเคราะห์ทั้งงบการเงิน ปริมาณการผลิต และแนวโน้มราคาทองคำควบคู่กัน

ดังนั้น การลงทุนในหุ้นเหมืองทองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน และกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนหรือเกิดภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม หุ้นเหมืองทองก็มีความผันผวนและความเสี่ยงเฉพาะตัวสูง นักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อให้การลงทุนเกิดประโยชน์สูงสุดและลดโอกาสขาดทุนในระยะยาว

ขณะเดียวกัน บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด (KKP Dime) ระบุว่า มุมมองโอกาสการลงทุนใหม่ในช่วงที่ราคาทองคำกำลังทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง นักลงทุนจำนวนมากอาจกำลังกังวลว่าพลาดจังหวะลงทุนในทองคำไปแล้ว ทั้งที่ยังมีสินทรัพย์อีกประเภทที่ให้ผลตอบแทนเร็วและแรงกว่า นั่นคือ “หุ้นเหมืองทองคำ” ซึ่งสามารถเข้าลงทุนผ่านกองทุนเปิด กองทุนเปิด เอแทรคเกอร์ส โกลบอล โกลด์ มเนอร์ส อิควิตี้ (Atrackers Global Gold Miners Equity Fund: A-RING)

ทั้งนี้ KKP Dime ประเมินว่าเมกะเทรนด์เศรษฐกิจโลกในช่วงนี้ ตั้งแต่ภาวะหนี้สาธารณะล้นโลก ค่าเงินดอลลาร์ที่สั่นคลอน ไปจนถึงแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงล้วนเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยมีปัจจัยสำคัญที่เรียกว่า “3D” ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว (Deterioration) ความต้องการกระจายความเสี่ยงของธนาคารกลาง (Diversification) และความกังวลเรื่องค่าเงินด้อยค่า (Debasement)

ภายใต้ปัจจัยดังกล่าว หุ้นเหมืองทองคำจึงเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น โดยจากสถิติในอดีตพบว่าเมื่อราคาทองคำเข้าสู่ตลาดกระทิง ราคาหุ้นเหมืองทองคำมักปรับตัวขึ้นเฉลี่ยราว 2 เท่าของราคาทองคำแท่ง อีกทั้งช่องว่างระหว่างราคาหุ้นเหมืองและราคาทองคำในปัจจุบันยังสะท้อนโอกาสฟื้นตัวเพิ่มเติม (Catch up opportunity) ขณะที่ต้นทุนการขุดยังทรงตัว ทำให้ส่วนต่างกำไรของเหมืองทองคำอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

KKP Dime ระบุเพิ่มเติมว่าอุตสาหกรรมเหมืองทองคำในยุคใหม่แข็งแกร่งกว่าเดูดิมอย่างมาก โดยบริษัทเหมืองทองคำทั่วโลกมีสถานะทางการเงินดีขึ้นหลังการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2015 ทั้งระดับหนี้สินที่ลดลง กระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้น มูลค่าหุ้น (Valuation) ที่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว และมีอัตราปันผลที่น่าสนใจ อีกทั้งหุ้นเหมืองทองคำยังมีความสัมพันธ์ต่อสินทรัพย์การเงินอื่นในระดับต่ำ ทำให้เป็นเครื่องมือกระจายความเสี่ยงที่ดี

กองทุน A-RING ซึ่งเป็น Feeder Fund ลงทุนในกองทุนหลัก iShares MSCI Global Gold Miners ETF (RING) ของ BlackRock จะเน้นลงทุนในบริษัทเหมืองทองคำชั้นนำทั่วโลกอย่างน้อย 30 แห่ง โดยบริษัทที่คัดเลือกต้องมีรายได้จากทองคำเป็นสัดส่วนหลัก โดยมีน้ำหนักลงทุนสำคัญในบริษัทระดับโลก เช่น Newmont, Agnico Eagle Mines, Barrick Mining และ Zijin Mining ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงโอกาสการเติบโตของเหมืองทองคำระดับโลกได้อย่างเต็มศักยภาพ