4 ธันวาคม 2560 : นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า ทางกรมฯ ได้ร่างแผนแม่บทดิจิทัล 61-65 เพื่อยกระดับสนามบินภูมิภาคสู่สมาร์ทแอร์พอร์ต (Smart Airport) รองรับตลาดการบินและนักท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและเพิ่มศักยภาพด้านความปลอดภัยสนามบิน นำร่องพัฒนาระบบดิจิทัลช่วง 5 ปีข้างหน้าเน้นสนามบินศักยภาพที่มีปริมาณผู้โดยสารจำนวนมาก 6 แห่งได้แก่ สนามบินกระบี่ สนามบินอุดรธานี สนามบินขอนแก่น สนามบินสุราษฎร์ธานี สนามบินอุบลราชธานี และสนามบินนครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ มีแผนลงทุนเทคโนโลยีเบื้องต้น 13,000 ล้านบาท ได้แก่ การติดตั้งระบบลำเลียงกระเป๋าและสายพานแบบ In-line Screening และระบบตรวจสอบวัตถุระเบิด วงเงินรวม 8,837 ล้านบาท รวมทั้งโครงการติดตั้งระบบเคาเตอร์เช็คอินร่วม (common use) แก้ไขปัญหาความแออัดวงเงินรวม 4,200 ล้านบาท

นายพรเทพ ฤทัยเจริญลาภ ผู้จัดการโครงการแผนแม่บทดิจิทัล กรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า ในอนาคตกรมฯ จะลงทุนเพิ่ม เพื่อติดตั้งระบบเครื่องตรวจพาสปอร์ตอัตโนมัติ และระบบสแกนบัตรบอร์ดดิ้งพาสอัตโนมัติ ให้ผู้โดยสารถือตั๋วโดยสารไปสแกนก่อนขึ้นเครื่องบินได้เอง แทนที่การใช้บุคลากรประจำเคาเตอร์เพื่อลดปัญหาแออัดในอาคารผู้โดยสาร

นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดนำหุ่นยนต์อัจฉริยะเข้ามาใช้ในสนามบินคอยช่วยเหลือผู้โดยสาร (Airport Guide Robot) และหุ่นยนต์ทำความสะอาด (Automated Cleaning Robot) รวมทั้งเตรียมแผนพัฒนาแอพลิเคชั่นบนมือถือ “DOA Airport” ให้ผู้โดยสารเข้าถึงข้อมูลต่างๆของสนามบินได้มากยิ่งขึ้น

ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพระบบรักษาความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลนั้น ในอนาคตจะพัฒนาระบบตรวจสอบผู้โดยสารและสัมภาระให้มีความแม่นยำมากขึ้น ผ่านการติดตั้งเครื่องระบุอัตลักษณ์บุคคลทั้งการสแกนลายนิ้วมือและสแกนม่านตา รวมถึงออกบัตรสมาร์ทการ์ดสำหรับพื้นที่หวงห้าม

นอกจากนี้จะติดตั้งกล้องวงจรปิดสมัยใหม่ที่มีระบบแจ้งเตือนเมื่อพบวัตถุต้องสงสัยถูกวางไว้เกินกว่า 15-20 นาที หรือพบบุคคลต้องสงสัยในฐานข้อมูลแบล็คลิสต์ด้านความมั่นคง ตลอดจนติดตั้งระบบควบคุมการเข้าออกและระบบควบคุมพื้นที่หวงห้ามอย่างเข้มงวด