“สินทรัพย์ประกันภัย” ร่วมมือกับ บริษัท ไรเดอร์ อินชัวร์รัน โบรกเกอร์ จำกัด และ สปีด แชลแนล ขายพ.ร.บ.ร่วมทำบุญสร้างอาคารนวมินทรฯ รพ.ศิริราช ส่วนเป้าหมายปี 59 เร่งตัดงานรถแท็กซี่ เพิ่มเบี้ยเพื่อลดสินไหมพุ่งติดเพดาน คาดปีนี้เติบโตใกล้เคียงปีก่อน เป้าหมาย 980 ล้านบาท
![]()
ดร.สมนึก สงวนสิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทร่วมมือกับ บริษัท ไรเดอร์ อินชัวร์รัน โบรกเกอร์ จำกัด และ สปีด แชลแนล ดำเนินโครงการ พ.ร.บ.อิ่มใจ โดยการจำหน่ายประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับจำนวน 1 แสนกรมธรรม์ภายในระยะเวลา 6 เดือน ทั้งนี้ 1 กรมธรรม์บริษัทจะสบทบทุน 100 บาท เพื่อร่วมสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช ซี่งจะสร้างเสร็จในปี 2562 โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงาน ปี 2559 นี้ บริษัทมุ่นเน้นจัดการและบริหารต้นทุน รวมถึงลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ผลการดำเนินงานเป็นบวกมากยิ่งขึ้น ลำดับแรกบริษัทฯ ปรับลดเป้ายอดขายในปีนี้ลงมาเหลือใกล้เคียงกับปี 2558 คือประมาณ 980 ล้านบาท หรืออาจเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5 % จากแผนเดิมที่เคยตั้งเป้าไว้ว่าเราจะทำเบี้ยให้ได้ประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งมุ่งเน้นทางด้านคุณภาพและผลิตภัณฑ์ แต่จะไม่แข่งขันด้านราคา
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนการรับประกันภัยแบ่งเป็นเบี้ยประกันรถยนต์ 85% และ อีก 15 % เป็นประกันที่ไม่ใช่รถยนต์ ซึ่งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ฐานลูกค้าหลักคือกลุ่มรถแท็กซี่ ที่เริ่มมีอัตราความเสียหายต่อเบี้ยประกันภัยหรือ ลอส เรโช เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ระดับ 89-110 % จากเดิมที่ในช่วง 3 ปีแรกที่เริ่มทำตลาดนั้นอัตราของลอส เรโชอยู่ที่ระดับ 58 % เท่านั้น ดังนั้น บริษัทฯ ต้องมีการขึ้นเบี้ยประกันเพิ่มอีก 2 พันบาทพรือคิดเป็น 25 % ของลอสเรโชเพื่อไม่ทำให้บริษัทต้องขาดทุนเพิ่มขึ้นไปอีก
ซึ่งในส่วนของงานรับประกันภัยรถแท็กซี่นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการรับประกันภัยประเภทสาม มีเบี้ยรวมกันอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท/ปี แต่ถิติการเคลมสูง เฉลี่ยขาดทุนเดือนละ 2 ล้านบาท จึงต้องเร่งดำเนินการแก้ไข ด้วยการขอปรับเพิ่มเบี้ยประกันอีก 2,000 บาท จากเดิมทำไว้ที่ 8,000 บาท รวมเบี้ยประกันเพิ่มเป็น 1 หมื่นบาท เพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นและดึงตัวเลขค่าเคลมให้ลดลงมา จึงทำให้ลูกค้าแท็กซี่ที่เคยทำกับเราหันไปทำกับบริษัทอื่นที่ถูกกว่าแทน ดังนั้น เบี้ยประกันรถแท็กซี่จาก 15 ล้าบาท เหลือ 2-3 ล้านบาท

ประกันภัยทุกวันนี้สู้กันด้วยOE หรือ Operating Expense ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การจัดการองค์กรที่เหมาะสม เอาเทคโนโลยี่ หรือ IT เข้ามาเสริม กล่าวคือ ปีนี้บริษัทจะดำเนินการด้าน Digital marketing ที่เน้นขายสินค้าที่ไม่ซับซ้อนเข้าใจง่าย ที่จะเริ่มภายใน 6 เดือนนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังหันไปให้ความสนใจกับการขายตรงมากยิ่งขึ้น เพราะลอสเชโชไม่สูงมาก
สำหรับเรื่องการมองหาพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาร่วมทำธุรกิจนั้น ดร.สมนึกกล่าวว่า ก็มีคุยกันอยู่บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทต่างชาติ ซึ่งหากจะเข้ามาร่วมธุรกิจกันก็ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ที่บริหารอยู่ เนื่องจากบริษัทฯไม่ได้ต้องการเงิน ดังนั้น ถ้าจะต้องเติบโตสิ่งสำคัญคือเทคโนโลยี่และโนฮาว หนึ่งบวกหนึ่งต้องเป็นสาม
นอกจากนี้ ทิศทางการลงทุนของบริษัทฯ พันธบัตร 50% หุ้น 10% เน้นหุ้นกู้ 30-40% ซึ่งไม่ค่อยเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เพราะปั่นป่วน แต่ถ้าเปีหน้าพันธบัตรหมดคงต้องพยายามหาหุ้นกู้สถาบันเข้ามาเสริม ทางด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือกลุ่มทรู กลุ่มนี้ผลตอบแทนประมาณ 3.5-4% ซึ่งพอร์ตการลงทุนประมาณ 800-1,000 ล้านบาท เฉลี่ยน่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 35-40 ล้านบาท
“เคยมีกูรูประกันภัยพูดไว้ว่า ต่อไปบริษัทประกันภัยที่มีอยู่ทั้งหมดนั้น จะเหลือดำเนินกิจการอยู่ได้เพียง 30 บริษัท เราบริษัทสินทรัพย์ประกันภัยฯ เป็นบริษัทประกันภัยขนาดกลาง เราจะทำให้ดูว่าเราก็ยังอยู่ได้ต่อไป ถ้าตราบใดเราจับตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือ นิช มาร์เก็ต และและสามารถทำให้องค์กรลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลงได้” ดร. สมนึกกล่าว












