WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันเสาร์ ที่ 18 พฤษภาคม 2567 ติดต่อเรา
เปิดตัว “บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด” ให้กู้สินเชื่อที่ดิน รับจำนอง-ขายฝาก ดอกเบี้ยต่ำปีแรก 6.99-8.99% ต่อปี

22 ธันวาคม 2565 : นายอิสระ วงศ์รุ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer) บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด เปิดเผยว่าตามที่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย มอบหมายให้ นายวิทัย รัตนากร กรรมการในคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินฯ และผู้อำนวยการธนาคารออมสิน หาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สิน เติมสภาพคล่องช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่ธนาคารออมสินดำเนินการ คือ ได้ร่วมทุนจัดตั้ง บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด เมื่อกลางปี 2565 ที่ผ่านมา

ด้วยความตั้งใจบรรเทาปัญหาหนี้ ลดความเหลื่อมล้ำทางการเงิน รวมถึงเป็นช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนดอกเบี้ยที่ถูกลง เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย สำหรับการนำที่ดินมาเป็นหลักประกันการกู้เงินในแบบจำนองหรือขายฝาก ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีหน่วยงานภาครัฐร่วมกันจัดตั้งบริษัทและถือหุ้นใหญ่ เป็นแหล่งเงินกู้แห่งใหม่เพื่อให้บริการสินเชื่อที่เข้าถึงได้ด้วยการคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมไม่สูงเกินไป  วันนี้บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด พร้อมเปิดให้บริการสินเชื่อที่ดินแล้ว

โดยให้เงินกู้เสริมสภาพคล่องยามฉุกเฉินให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในยามเดือดร้อน มีความจำเป็นต้องการใช้เงินสดในยามฉุกเฉิน หรือเติมทุนหมุนเวียนกิจการที่กำลังหาเม็ดเงินเสริมสภาพคล่อง หรือต้องการต่อยอดธุรกิจ รวมถึง รีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมเพื่อบรรเทาภาระดอกเบี้ย

สินเชื่อที่ดิน มีเป้าหมายช่วยเหลือธุรกิจ SMEs โดยเปิดรับจำนองที่ดิน และขายฝาก รีไฟแนนซ์ ให้กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดา วงเงินกู้ 300,000 บาท ถึง 10 ล้านบาท และนิติบุคคล วงเงินกู้ตั้งแต่ 300,000 บาท จนถึง 50 ล้านบาท ให้วงเงินกู้สูงสุด 70% ของราคาประเมินที่ดินราชการ คิดอัตราดอกเบี้ย ปีแรก 6.99-8.99% ต่อปี ปีที่ 2 เป็นต้นไป MLR+สูงสุดไม่เกิน 2.85% ต่อปี (ปัจจุบัน MLR = 6.150% ต่อปี) ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี แบบลดต้นลดดอก พร้อมปลอดชำระเงินต้นนาน 1 ปี ที่สำคัญคือ ไม่เช็คเครดิตบูโร ไม่ตรวจสอบรายได้ และไม่ต้องใช้บุคคลค้ำประกัน

โดยตั้งเป้าหมายปี 2566 คาดว่าจะมียอดปล่อยสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือประชาชนรายย่อยและผู้ประกอบการได้ประมาณ 4,000–5,000 ราย โดยระยะ 6 เดือนแรก ปล่อย 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้ให้บริการนำร่องไปแล้วในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ และเตรียมให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ ม.ค.2566 พร้อมกับมีแผนขยายบริการไปตามหัวเมืองใหญ่ทุกภูมิภาค ในต้นปี 2566 และทั่วประเทศตั้งแต่กลางปี 2566 เป็นต้นไป โดยมีสาขาของธนาคารออมสินเป็นหลักในการให้บริการ

"ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีลูกค้าสนใจเข้ามาใช้บริการกันแล้วขณะนี้มีราว 40 ราย คาดว่าจะมีเพิ่มเข้ามาอีกหลายเท่าตัว  โดยอัตราดอกเบี้ยกู้ในปีแรกจะเป็นอัตราคงที่ และในปีที่ 2 จะปรับอัตราดอกเบี้ยตามดอกเบี้ย MLR ของออมสิน ซึ่งหากเทียบกับค่าธรรมเนียมกับท้องตลาดแล้วของบริษัทฯเราจะมีราคาถูกกว่ามาก

สำหรับกลุ่มเป้าหมายมี 2-3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มสภาพคล่องของตนเองในครอบครัว หรือนำไปชำระหนี้นอกระบบ หรือหนี้บัตรเครดิต ซึ่งดอกเบี้ยสูง หากมีที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง บ้านอยู่อาศัย หรือคอนโด สามารถนำมากู้เพื่อรับดอกเบี้ย 6.99-8.99% ต่อปี เพื่อไปชำระหนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ย 16-18% ต่อปี หรือหนี้นอกระบบอัตราดอกเบี้ย 20-30% ก็จะประหยัดกว่ามาก หรืออาจจะได้เงินไปใช้จ่ายหมุนเวียน

รวมไปถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการสภาพคล่อง ไปขยายธุรกิจก็สามารถนำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างมากู้เพื่อไปสร้างสภาพคล่องเป็นเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจ หรือนำไปชำระนี้ก็ได้ หรือผู้ประกอบการบริษัทก็สามารถนำหลักทรัพย์ต่างๆ ข้างต้นมากู้เงินเพื่อนำไปขยายกิจการ ตั้งหลักภายหลังจากผลกระทบของโควิดก็ได้เช่นกัน"นายอิสระ กล่าว

นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจจะมีส่วนช่วยดึงอัตราดอกเบี้ยในระบบให้ลดต่ำลงมาได้ เนื่องจากตลาดมีการแข่งขันดังนั้นคงต้องปรับตัว ซึ่งบริษัทฯ ก็ไม่ต้องการทำคนเดียวเพราะตลาดใหญ่มาก หากบริษัทอื่นๆ ปรับดอกเบี้ยลดลงก็ถือเป็นประโยชน์ในภาพรวมที่ผู้กู้ประชาชน ผู้ประกอบการรายย่อย รายกลางได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า จีงคิดว่าน่าจะเป็นการจุดประกายให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวลดลง

อนึ่ง บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด เกิดขึ้นจากการผลักดันของธนาคารออมสิน ด้วยแนวทางที่ต้องการให้ธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝากในตลาดเกิดการแข่งขันที่สมบูรณ์ ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงแหล่งเงินด้วยต้นทุนที่เป็นธรรมอย่างเท่าเทียม และเกิดความคล่องตัวในการให้บริการประชาชน จึงเกิดการร่วมทุนระหว่างธนาคารออมสิน กับ บริษัท ทิพย เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด และ กลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท เมื่อกลางปี 2565 ที่ผ่านมา 

เศรษฐกิจ ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP