WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม 2568 ติดต่อเรา
ภาษีสหรัฐฯ ยังเดินต่อ 9 ก.ค.นี้

7 กรกฎาคม 2568 : ในยุคที่เศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้น ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศจึงมีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของแต่ละชาติ ประเทศไทยในฐานะประเทศคู่ค้ารายสำคัญของสหรัฐอเมริกา ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะนโยบายที่อาจมีผลต่อการส่งออกและการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว รัฐบาลไทยจึงได้ส่งคณะผู้แทนเข้าร่วมเจรจากับฝ่ายสหรัฐฯ เพื่อหาข้อตกลงที่สมดุลและยั่งยืน

โดย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่าได้เตรียมรวบรวมความเห็นจากการเจรจาฝ่ายสหรัฐฯ ปรับข้อเสนอ เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้อย่างยั่งยืน และเป็นประโยชน์ต่อ 2 ประเทศ งานนี้ ท่านรมว.คลัง กล่าวว่า ภายหลังเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อเจรจามาตรกรทางภาษีของสหรัฐอเมริกาว่า ในการเดินทางเยือนครั้งนี้ "ทีมไทยแลนด์" ได้ประชุมกับหลายฝ่าย และได้พบทั้งภาครัฐของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นระดับนโยบาย และภาคเอกชนของสหรัฐอเมริกา ที่มีการลงทุนในประเทศไทย รวมถึงได้พบกับภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกาที่ภาครัฐสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ ทำให้ทีมไทยแลนด์ ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง

สำหรับประเทศไทย ถือเป็นการพบกันอย่างเป็นทางการในระดับนโยบาย โดยได้พบกับทูตการค้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และได้พบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ทำให้ได้รับความเห็นสะท้อนกลับ ที่สหรัฐอเมริกายังคงเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยเป็นพันธมิตรเศรษฐกิจการค้ามาอย่างยาวนาน และเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย

ในส่วนของรายละเอียดการเจรจานั้น การเข้าประชุมอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ยังทำให้เข้าใจแนวคิดของทางฝ่ายสหรัฐ และแนวคิดของภาคส่วนอื่นๆที่มีผลต่อการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐ โดยได้รับฟังทั้งข้อเสนอ และข้อกังวลจากฝ่ายสหรัฐซึ่งมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับทั้งอัตราภาษีและการกีดกันทางการค้าอย่างรอบด้าน โดยคณะทำงานจะนำความเห็นที่ได้ทั้งหมด กลับไปประกอบการทำงาน และเจรจาในระดับเทคนิคและส่งกลับไปให้ฝ่ายสหรัฐอเมริกาโดยเร็ว

“การเจรจาในครั้งนี้ มีข้อสรุปที่เป็นไปด้วยดี ซึ่งสหรัฐอเมริกา ได้ขอบคุณประเทศไทยที่กระตือรือร้นเข้าร่วมเจรจา และไทยจะรับข้อเสนอทั้งหมด กลับไปจัดทำข้อเสนอเพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมยืนยันว่า จุดยืนของคณะทำงานฝ่ายไทย จะต้องได้ข้อตกลงที่ปฏิบัติได้อย่างยั่งยืน และได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งแม้การเจรจาจะยังต้องเดินหน้าต่อ เพื่อให้บรรลุประโยชน์สูงสุดของ 2 ประเทศ ซึ่งตนและคณะทำงาน จะยังทำงานหนักมากขึ้น เพื่อปรับเงื่อนไขของฝ่ายไทยให้ชัดเจน และสร้างความเข้าใจต่อสหรัฐอเมริกาว่า จะเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อไป” ขุนคลัง กล่าว

ขณะที่นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยถึงประเด็นการเจรจามาตรการภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ หลังจากล่าสุดการเจรจายังไม่ได้ข้อสรุป ว่า แม้ตอนนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดการเจรจา แต่เชื่อว่านายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงทีมไทยแลนด์ จะมีการเตรียมข้อเสนอเพิ่มเติมที่จะส่งไปให้สหรัฐฯ ไว้แล้ว เพราะต้องรีบส่งไปเจรจาให้ทันก่อนถึง วันที่ 9 ก.ค.2568 ส่วนการพิจารณาทบทวนตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี (GDP) ของไทยนั้น ล่าสุดสภาพัฒน์ประเมินไว้อยู่ที่ 1.3-2.3% เป็นการประเมินจากอัตราภาษีที่สหรัฐฯ ประกาศไว้ตั้งแต่ตอนแรกว่าจะเรียกเก็บจากแต่ละประเทศคู่ค้าในอัตราเท่าใด ซึ่งในส่วนของไทยถูกคิดอัตราภาษีอยู่ที่ 36%

อย่างไรก็ตาม ประเทศเวียดนามได้บรรลุข้อตกลงเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ สำเร็จแล้วที่อัตรา 20% ในขณะที่ไทยยังไม่ทราบว่าสุดท้ายแล้วจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราเท่าใด ดังนั้นอาจจะมีการพิจารณาทบทวน GDP สำหรับปีนี้ใหม่อีกครั้ง หลังทราบอัตราภาษีที่ชัดเจนที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บจากไทย

โดยงานฉบับนี้นำเสนอสาระสำคัญจากการเดินทางเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯไปของฝ่ายไทย แนวทางการจัดทำข้อเสนอ และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นต่อประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อชี้ให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่รอบคอบและมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง 

เศรษฐกิจ ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP