WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอาทิตย์ ที่ 13 กรกฎาคม 2568 ติดต่อเรา
อาชีพ “วิศวกรเสียง” มาแรง รุกตั้ง “สำนักวิศวกรรมสังคีต” …รับดีมานด์ทั่วโลก ##

กรุงเทพฯ 28 มีนาคม 2560 : สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เผยอุตสาหกรรมดนตรีของไทย คือกำลังสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ หลังสร้างเม็ดเงินสะพัดราว 35,000 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจไม่ต่ำกว่าปีละ 10% รุกตั้งเป็นสำนักวิศวกรรมสังคีต (Institute of Music Science and Engineering : IMSE) เป็นศูนย์กลางประยุกต์ความรู้ศาสตร์วิศวกรรม มุ่งหวั่งพัฒนาอุตสาหกรรมดนตรีให้มีคุณภาพระดับสากล

untitled2

ผศ.ดร.พิทักษ์ ธรรมวาริน ประธานหลักสูตรวิศวกรรมดนตรีและสื่อประสม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า ในแต่ละปีอุตสาหกรรมดนตรีในประเทศไทย ยังสร้างเม็ดเงินจำนวนไม่น้อยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ จนทำให้หลายคนมองว่าดนตรีหรือเพลงคือของฟรี

โดยข้อมูลการวิจัยของ TCDC ในปี 2557 ระบุว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมนี้สร้างเม็ดเงินสะพัดราว 35,000 ล้านบาทต่อปี แบ่งออกเป็น ธุรกิจค่ายเพลง 20,000 ล้านบาท ธุรกิจวิทยุที่เกี่ยวข้องกับดนตรีและบันเทิง 6,500 ล้านบาท ธุรกิจเครื่องเสียงและเครื่องดนตรี 5,000 ล้านบาท ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแสงและเสียง 2,000 ล้านบาท และธุรกิจโรงเรียนสอนดนตรี 300 ล้านบาท

ขณะที่ในภาพรวมมีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจไม่ต่ำกว่าปีละ 10% ชี้ให้เห็นว่าหากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ นักร้อง นักดนตรี บุคลากรในแวดวง รวมถึงสถาบันการศึกษา ร่วมกันพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้อย่างเป็นระบบ จะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ พร้อมกับผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลาง อุตสาหกรรมและนวัตกรรมด้านบันเทิงแห่งอาเซียนได้ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมดนตรี ส่งผลให้การผลิตบุคลากรรุ่นใหม่เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมนั้น จำเป็นต้องผสานองค์ความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์เข้าด้วยกัน ที่ผ่านมาสาขาวิชาวิศวกรรมดนตรีและสื่อประสม สจล. จึงพัฒนาหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอน โดยการนำความรู้ศาสตร์วิศวกรรม ได้แก่ วิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ สื่อสาร/โทรคมนาคม และไอที ประยุกต์รวมกับความเป็นศิลป์ คือ ดนตรี องค์ประกอบทางแสง สี เสียง รวมถึงงานด้านกราฟิกและแอนนิเมชั่นเข้าด้วยกัน รูปแบบการสอนในลักษณะนี้ถือว่าทัดเทียมกับหลักสูตร ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในด้านนี้ เช่น มหาวิทยาลัยไมอามี และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา

จึงทำให้นักศึกษามีความรู้และทักษะที่หลากหลาย เมื่อจบออกไปสามารถประกอบอาชีพได้ทุกสายงาน ทั้งในอุตสาหกรรมดนตรีและบันเทิง รวมไปถึงสายงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มความต้องการสูงขึ้งอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันทั่วประเทศยังมีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญน้อยมาก ตัวอย่างเช่น Sound Engineer ขณะนี้มีเพียงหลัก 10 เท่านั้น

ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มอาชีพที่นักศึกษาวิศวกรรมดนตรีและสื่อประสม สามารถประกอบอาชีพได้หลังจบการศึกษา แบ่งออกเป็น 7 กลุ่มอาชีพหลัก ดังนี้
1. กลุ่มอุตสาหกรรมดนตรี โดยเป็นวิศวกรที่ทํางานทางด้าน Sound Engineer, Light and Sound Control ทั้งในภาคสนามและใน studio รวมทั้งการออกแบบงานด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Live Show ทั้งในรูปแบบของคอนเสิร์ตและละครเวที ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยถือเป็นช่องทางหลักในการสร้างรายได้แก่ศิลปินและภาคธุรกิจ

2. กลุ่มอุตสาหกรรมภาพยนตร์/โฆษณา/เกมส์และแอนิเมชั่น ทำงานด้านการสังเคราะห์เสียงสําหรับผลิตเกมส์และแอนิเมชั่น ผลิตโฆษณาและภาพยนตร์ รวมไปถึงเป็นวิศวกรระบบเครือข่ายสําหรับการ Download Digital Contents ต่างๆ และเกมส์ On-line รวมทั้งงานทางด้าน Mobile Applications

3. สถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ เป็นวิศวกรสถานีวิทยุและโทรทัศน์ ออกแบบระบบอะคสูตกิในห้องส่ง ควบคุมเสียงและภาพในการบันทึกเทปหรือออกอากาศสด และระบบการถ่ายทอดสัญญาณ ซึ่งปัจจุบันมีสถานีวิทยุและโทรทัศน์ต่างๆ มากมาย

4. กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดนตรี เป็นวิศวกรที่นําเอาหลักการทางด้านวิศวกรรมมาสร้าง Audio/Sound Effect สําหรับเครื่องดนตรีต่างๆ การสร้าง Mixer, Equalizer, Amplifier รวมทั้งงานด้านการวิเคราะห์เสียงของเครื่องดนตรีไทย สําหรับการสร้างมาตรฐานของเสียงและการผลิตเครื่องดนตรีไทย

5. กลุ่มอุตสาหกรรมด้านวิศวกรรมความปลอดภัยทางเสียง และโสตทัศนะอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นวิศวกรด้านความปลอดภัยทางเสียง เช่น ออกแบบและสร้างเครื่องช่วยฟัง และอุปกรณ์ช่วยผู้บกพร่องทางการได้ยินและการมอง เป็นต้น

6. กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นวิศวกรด้านระบบเสียงในรถยนต์ การออกแบบระบบอะคูสติกในห้องโดยสาร เครื่องเสียงติดรถยนต์ ระบบสื่อสารในรถยนต์และระหว่างรถยนต์กับรถยนต์รองรับระบบการขนส่งอัจฉริยะ

7. กลุ่มอุตสาหกรรม Consumer Electronics เป็นวิศวกรที่ทําางานด้านระบบเครื่องเสียงและระบบอะคูสติก ทั้งภายในสําานักงาน ห้องประชุม หอประชุมขนาดใหญ่ โรงละคร โรงภาพยนตร์ โรงแรม สถานบันเทิง รวมท้ังระบบ Home Theater ในบ้าน

ขณะที่ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวเสริมว่า เพื่อพัฒนาทักษะความสามารถของคนไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ จึงยกระดับสาขาวิชาวิศวกรรมดนตรีและสื่อประสม คณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่เริ่มเปิดสอนในปี 2557 ซึ่งถือเป็นครั้งแรงและแห่งเดียวในประเทศไทย ยกระดับโดยจัดตั้งเป็นสำนักวิศวกรรมสังคีต (Institute of Music Science and Engineering : IMSE) เพื่อสนับสนุนพันธกิจในการพัฒนาอุตสาหกรรมดนตรีในประเทศไทย

โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการนำเทคโนโลยี และความรู้ทางวิศวกรรมเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมดนตรีให้มีคุณภาพ พัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมบันเทิงของภูมิภาคอาเซียน และผลักดันอุตสาหกรรมดนตรีของไทยให้มีบทบาทเด่นชัดในสายตานานาชาติ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับมาตรฐานการประกอบวิชาชีพของบุคลากร ในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวให้มีค่ามากยิ่งขึ้นด้วยlogo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

เศรษฐกิจ ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP