10 เมษายน 2560 : นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดเรื่องการจัดซื้อรถใหม่จำนวน 7 ขบวนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเป็น 1.3 แสนคน/วัน สำหรับผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เนื่องจากขณะนี้แอร์พอร์ตเรลลิงก์ประสบกับการขาดทุนเฉลี่ย 300 ล้านบาท/ปี และพบปัญหาเรื่องการบริการที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร
ปัจจุบัน แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 6 หมื่นคน/วัน หากเป็นวันที่มีกิจกรรมตามแนวสถานี ปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเป็น 8.5 หมื่นคน/วัน ซึ่งเกินขีดรองรับของรถที่มีอยู่ 9 ขบวน โดยขณะนี้อยู่ในการตัดสินใจเรื่องระบบอาณัติสัญญาณ และกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
นอกจากนี้ ได้เร่งรัดให้ทำแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ การใช้ประโยชน์ทรัพย์สินอย่างเต็มที่ โดยหลักการต้องบริหารทรัพย์สินร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่เป็นบริษัทแม่ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มรายได้อีกทาง โดยให้ทำแผนพัฒนาธุรกิจ การพัฒนาพื้นที่ในสถานี ที่จอดรถ เป็นต้น โดยให้เสนอแผนมายังกระทรวงคมนาคมภายใน 2 สัปดาห์
หลังจากนี้ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะต้องปรับรูปแบบการบริหารใหม่ จากปัจจุบันที่ทำหน้าที่รับจ้างเดินรถอย่างเดียว โดย รฟท.เป็นผู้ว่าจ้างด้วยค่าจ้างปีละ 200 กว่าล้านบาท โดยขอปรับเป็นผู้เดินรถเอง รับผิดชอบการซ่อมบำรุง จัดซื้อจัดจ้างเอง เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำกำไร
“เรื่องแยกการบริหารแอร์พอร์ตลิงก์ ออกจาก รฟท. เป็นแผนที่ทำมาตั้งแต่ 5 ปีแล้ว แต่ล่าช้า ผมมาเร่งรัด เพราะถ้าทำได้ จะทำให้แอร์พอร์ตลิงก์มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการนอกจากนี้ ได้เร่งรัดการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ แอร์พอร์ตลิงก์ คนใหม่ ให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนี้”นายพิชิต กล่าว