6 กันยายน 2560 : พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผย ในงานปาฐกถาพิเศษเรื่อง Energy 4.0 โอกาสของอุตสาหกรรมไทย ว่า กระทรวงพลังงานมีนโยบายพัฒนาพลังงานไทย โดยเฉพาะระบบไฟฟ้า ด้วยการพัฒนาภายใต้โครงการต่างๆ อาทิ การส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในประเทศ ที่ตั้งเป้าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 1.2 ล้านคันในปี 2579 พร้อมทั้งมีสถานีชาร์จไฟฟ้า 150 สถานีตามหัวเมืองใหญ่ของประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีแผนดำเนินโครงการสมาร์ทซิตี้ โครงการพลังงานทดแทนต่างๆ ระยะยาว 20 ปี โดยต้องพิจารณาต้นทุนและความคุ้มค่า รวมถึงคำนึงถึงประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด ซึ่งยอมรับว่าในช่วงแรกของการพัฒนาพลังงานจะมีการใช้ต้นทุนสูง แต่ทั้งหมดนับเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาระบบ Energy4.0 ของไทยไปสู่ความสมบูรณ์ในอนาคต ขณะที่ภาพรวมมูลค่าการลงทุนของภาคพลังงานทั้งจากภาครัฐและเอกชนในปีที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง 5-6 แสนล้านบาท นับเป็นโอกาสดีของภาคอุตสาหกรรมไทยที่จะต้องศึกษาการลงทุน
ด้านความคืบหน้าโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อปเสรี) ขณะนี้กำลังหารือรายละเอียดราคาและปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าในส่วนที่เหลือจากการใช้งานจากที่อยู่อาศัยและโรงงานอุตสาหกรรมอีกครั้งก่อนนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาในเดือนต.ค.นี้
“เบื้องต้นจะแบ่งอัตราการรับซื้อไฟจะแตกต่างกันตามความเหมาะสมและประเภท โดยประเภทบ้านเรือนที่อยู่อาศัยมีโอกาสได้ราคารับซื้อไฟสูงกว่าประเภทโรงงานอุตสาหกรรม เพราะสถานประกอบการได้รับการช่วยเหลือในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปผ่านมาตรการต่างๆ ของภาครัฐอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นราคารับซื้อในอัตราที่ต่ำกว่าราคาขายส่งซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2.60 บาทต่อหน่วย” พลเอกอนันตพร กล่าว ![]()












