28 พฤศจิกายน 2560 : นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า “ในยุคที่ผ่านมากว่า 10 ปี ธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่ง เอไอเอส เป็นผู้ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 นั้น สามารถสร้างการเติบโตให้แก่อุตสาหกรรม โดยเฉลี่ยสูงกว่า GDP ของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดกลุ่มลูกค้าทั่วไป (Mass Consumer)
อย่างไรก็ตาม เมื่อเรามาสู่ยุคของ Digital Transformation นั้น ตลาดผู้ใช้บริการในกลุ่มลูกค้าองค์กร (Enterprise Consumer) ต่างมองเห็นความจำเป็นของการนำเทคโนโลยี Digital เข้ามาประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของ Digital Infrastructure หรือ Digital Solution เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมสร้างโอกาสใหม่ๆในการสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน ท่ามกลางการถูกทำลายล้าง (Disrupt) จากเทคโนโลยี Digital จึงเป็นที่มาของแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดดของกลุ่มลูกค้าองค์กร หรือ Enterprise อย่างเห็นได้ชัด
จุดเด่นสำหรับบริการกลุ่มลูกค้าองค์กรของเอไอเอส คือสามารถให้บริการลูกค้าเอสเอ็มอีไปจนถึงลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานอย่างเช่นดาต้าเซ็นเตอร์ บริการคลาวด์ที่รวมตั้งแต่ให้คำปรึกษา ติดตั้ง เคลื่อนย้าย ดูแลรักษาระบบและความปลอดภัยของเครือข่าย รวมไปถึงโซลูชั่นด้านการสื่อสารที่เอไอเอสมีความได้เปรียบจากความแข็งแกร่งในด้านการให้บริการโทรคมนาคม ปัจจุบันรายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กรอยู่ที่ประมาณ 10% ของรายได้รวม และตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 3 ปีนับจากนี้ จะโตขึ้นเป็น 25% ของรายได้รวม
ซึ่งเอไอเอสมีความพร้อมเป็นอย่างมากที่จะเข้าไปทำตลาดในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นจากขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี Digital ทั้ง Mobile, Fixed Broadband และ Digital Services ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์จากหลากหลายอุตสาหกรรมที่นำมาซึ่ง Solutions ที่เหมาะสมกับลูกค้าองค์กรในแต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งล่าสุดมีการปรับทัพทางการตลาด เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการแข่งขันของตลาดลูกค้าองค์กรไปเรียบร้อยแล้ว นับเป็นการยืนยันถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเคียงข้างองค์กรธุรกิจให้เดินหน้าในยุค Thailand 4.0 อย่างชัดเจน
สำหรับในปีหน้า 2561 เอไอเอสจะเน้นการขยายธุรกิจในกลุ่มลูกค้าองค์กรอย่างเต็มที่ ด้วยทรัพยากรด้านต่างๆ ที่มีความพร้อมสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจ ส่วนการยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อหุ้นของ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นับเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานที่นำมาต่อยอดกับกลยุทธ์ของบริษัทที่วางไว้ เพื่อให้สามารถเพิ่มการขยายตัวของธุรกิจในกลุ่มลูกค้าองค์กรได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น บริษัทจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของฐานลูกค้าองค์กรเป็นอันดับ 1 เหมือนเช่นเคยในกลุ่มลูกค้าทั่วไป หรือ Mass Consumer