5 มิถุนายน 2561 : นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า จากการดำเนินงานของโครงการ “พันธมิตรศุลกากร (Customs Alliances)” หนึ่งปีที่ผ่านมา เรามีสมาชิกในโครงการทั้งหมด 325 ราย ครอบคลุม 8 กลุ่มพิกัดสินค้าที่พบปัญหาเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกมากสุด ได้แก่
รหัสพิกัดในหมวด 07 : สินค้าเกษตร รหัสพิกัดในหมวด 30 : สินค้าเภสัชกรรม รหัสพิกัดในหมวด 39 : สินค้าพลาสติก รหัสพิกัดในหมวด 72 : สินค้าเหล็ก รหัสพิกัดในหมวด 73 : สินค้าผลิตภัณฑ์จากเหล็ก รหัสพิกัดในหมวด 84 : สินค้าเครื่องจักร รหัสพิกัดในหมวด 85 : สินค้า IT และรหัสพิกัดในหมวด 87 : สินค้ายานพาหนะ
โดยกรมศุลกากรได้จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ ให้คำแนะนำติดต่อประสานงาน แก้ไขปัญหา สร้างความชัดเจน และลดข้อโต้แย้งที่จะเกิดขึ้นในด้านต่างๆ ทั้งปัญหาเชิงนโยบายและปัญหาหน้างานปกติ อาทิ พิธีการศุลกากร พิกัดอัตราศุลกากร ราคา ถิ่นกำเนิด กฎหมายศุลกากร สิทธิประโยชน์ และปัญหาอื่น
โดยมอบหมายเจ้าหน้าที่ศุลกากรจากส่วนกลาง (Account Officer Center : AOC) ทำหน้าที่ติดต่อประสานกับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านของแต่ละพื้นที่ (Account Officer Expert : AOX) เพื่อแก้ปัญหาและให้คำปรึกษาอย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์
ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินพิธีการทางศุลกากร ตลอดจนได้นำมาตรการสำคัญต่างๆ และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินงาน อันเป็นการสร้างความโปร่งใสและความเป็นธรรมให้แก่ผู้ประกอบการ และ ประสบความสำเร็จอย่างดี สมาชิกโครงการพันธมิตรศุลกากรพึงพอใจในการดำเนินงานของโครงการนี้
ในวันนี้ กรมศุลกากรจึงเปิดรับสมัครสมาชิกโครงการพันธมิตรศุลกากร ระยะที่ 2 เนื่องจากยังมีผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกอีกหลายรายที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกและมีการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมทั้งแสดงความประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกโครงการพันธมิตรศุลกากรเข้ามาจำนวนมาก
ดังนั้น กรมศุลกากรจึงได้เปิดรับสมัครสมาชิกในระยะที่ 2 โดยกำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติครอบคลุม 8 กลุ่มพิกัดสินค้าเหมือนในเฟสแรก ซึ่งจะปิดรับสมัคร ในวันที่ 15 มิถุนายน 2561 และจะประกาศรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้เป็นสมาชิกพันธมิตรศุลกากร ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 นี้ ทางเว็บไซด์ www.customs.go.th ![]()













