WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม 2568 ติดต่อเรา
ความหวังเฮือกสุดท้าย!!!

26 มีนาคม 2560 : ปี 2560 ล่วงเลยมาก็สามเดือนแล้วสำหรับเศรษฐกิจไทย หลังจากท่านนายกของประเทศทุบโต๊ะสั่งเดินหน้าโครงการภาครัฐต่างๆอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะโครงการรถไฟรางคู่และรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ นักกูรูทั้งไทยและเทศต่างโปรยยาหอมกับแผนงานดังกล่าว ว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยฟืันตัวแน่ๆไม่มากก็น้อย แต่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนไฉนมีการล้มประมูล ให้มีการประมูลใหม่ ทำเอาหลายคนเริ่มชะงัก เกรงว่าเศรษฐกิจจะไม่โต จุดหนึ่งที่สามารถดูได้ คือ ยอดปล่อยสินเชื่อเพราะถือเป็นดัชนีบ่งวัดความน่าจะเป็นได้ไม่น้อย

ล่าสุด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกมาสรุปข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560 จากเอกสารรายการย่อแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน (ธ.พ.1.1) ว่า สินเชื่อสุทธิเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ปรับตัวดีขึ้นจากสินเชื่อภาคธุรกิจ ซึ่งภาพรวมสินเชื่อเดือน ก.พ. 2560 กลับมาเพิ่มขึ้น 0.49% MoM (+1.57% YoY) จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อภาคธุรกิจทั้งในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ และธนาคารขนาดเล็กบางราย

โลโก้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

โดยเฉพาะสินเชื่อประเภทเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) และสินเชื่อประเภทมีระยะเวลา (Term Loan) อย่างไรก็ตาม คาดว่า แรงหนุนจากสินเชื่อภาคธุรกิจในภาพรวม คงจะยังไม่ฟื้นตัวได้เด่นชัดนักในช่วงครึ่งแรกของปี โดยยังต้องรอการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนที่อาจจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

สินเชื่อในกลุ่มธนาคารขนาดกลางและเล็กส่วนใหญ่ ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการชะลอตัวของสินเชื่อรายย่อย เนื่องจากการชำระคืนสินเชื่อประเภทบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อใหม่ที่ยังไม่ฟื้นตัวชัด จึงยังเพิ่มขึ้นไม่เพียงพอที่จะชดเชยยอดชำระคืนสินเชื่อเดิม ประกอบกับสินเชื่อเอสเอ็มอียังค่อนข้างทรงตัว

อย่างไรก็ดี คาดว่า แนวโน้มสินเชื่อเช่าซื้อจะมีโอกาสปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 2560 โดยมีอานิสงส์จากยอดขายรถใหม่ที่กระเตื้องขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งที่มีการออกรถรุ่นใหม่ ประกอบกับอาจมีดีมานด์เพิ่มขึ้นบางส่วนจากกลุ่มที่ปลดล็อกสินเชื่อโครงการรถคันแรกลงได้

ด้านเงินฝากเดือนกุมภาพันธ์ 2560 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกกลุ่มธนาคาร ภาพรวมเงินฝากเดือน ก.พ. 2560 ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อน 1.15 แสนล้านบาท (1.01% MoM และ 2.95% YoY) กระจายไปยังธนาคารทั้ง 3 กลุ่ม และเพิ่มขึ้นทั้งเงินฝากออมทรัพย์ และประจำ

อัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในเดือน ก.พ. 2560 ยังทรงตัว ขณะที่ การแข่งขันทางด้านราคาระหว่างผู้เล่นรายใหญ่ยังคงไม่ชัด (ซึ่งคาดว่า คงเป็นผลจากการที่ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนการเงินและสภาพคล่องให้เกิดประโยชน์สูงสุด) แม้ว่าในระหว่างเดือนจะมีการออกแคมเปญเงินฝากพิเศษของบางธนาคารออกมาก็ตาม

สภาพคล่องเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ตึงตัวขึ้นเล็กน้อย หลังพอร์ตเงินกู้ยืมลดลงตามการไถ่ถอนตราสารหนี้ แม้เม็ดเงินฝากในระบบธนาคารเดือน ก.พ. จะเพิ่มขึ้นมากกว่าเงินให้สินเชื่อ แต่ภาพรวมสภาพคล่องของธนาคารตึงตัวขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการครบกำหนดของหุ้นกู้และการไถ่ถอนตราสารหนี้ของธนาคารส่วนใหญ่ อันส่งผลให้ปริมาณตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืมลดลงรวมกันกว่า 6 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ซึ่งปรับลดลงกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้สัดส่วนเงินให้สินเชื่อรวมต่อเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (LTD+Borrowing Ratio) ในเดือน ก.พ. 2560 ขยับขึ้นเล็กน้อยมาที่ระดับ 90.64% จาก 90.62% ในเดือนก่อนหน้า คาดสินเชื่อไตรมาส 1/2560 เติบโต 1.7%… ส่วนเงินฝากขยายตัวจากการพักเงินของลูกค้า

IMG20170323160805

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ภาพรวมการเบิกใช้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในช่วงไตรมาส 1/2560 น่าจะมีโมเมนตัมที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีแรงหนุนจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1) การขยายตัวต่อเนื่องของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 2) การปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิต ซึ่งกระตุ้นความต้องการเงินทุนหมุนเวียนของผู้ประกอบการ และ 3) แรงกดดันการชำระคืนสินเชื่อจากภาครัฐมีทิศทางบรรเทาลงจากปีก่อนหน้า (แม้ว่าจะเผชิญการชำระคืนสินเชื่อจากรายย่อยและผู้ประกอบการบางส่วน ซึ่งเป็นปัจจัยเชิงฤดูกาล)

อย่างไรก็ดี ยังคาดว่า อัตราการเติบโตของเงินให้สินเชื่อสุทธิของ 14 ธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะเร่งขึ้นมาแตะระดับ 1.7% YoY เมื่อจบไตรมาสแรกของปี เทียบกับระดับการเติบโตที่ 1.3% YoY ในสิ้นปี 2559 และ 1.6% YoY ในเดือนก.พ. 2560 ส่วนประเด็นปัญหาคุณภาพสินทรัพย์นั้น แม้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) จะเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่เป้าหมายของแต่ละธนาคารที่ต้องการลดหรือประคองสัดส่วนหนี้ NPLs ต่อสินเชื่อรวมยังถือเป็นโจทย์ที่ท้าทาย ซึ่งทำให้ธนาคารยังคงให้น้ำหนักกับนโยบายเครดิตที่รัดกุมและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี และลูกค้ารายย่อยที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจมากกว่ากลุ่มอื่นๆ

สำหรับทิศทางเงินฝากนั้น ข้อมูลแคมเปญเงินฝากออกใหม่ของธนาคารพาณิชย์ในช่วง 2 เดือนแรกของปี บ่งชี้ว่า การออกผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษของธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ เป็นไปเพื่อชดเชยเงินฝากประจำที่ครบกำหนดเป็นหลัก อันสอดคล้องกับการเติบโตของเงินฝากในช่วง 2 เดือนแรกของปี ที่เป็นผลจากปัจจัยเฉพาะ เช่นการพักเงินชั่วคราวของภาครัฐและภาคเอกชน มากกว่าผลจากการแข่งขันระดมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะยังไม่เห็นภาพการแข่งขันระดมเงินฝากอย่างชัดเจน แต่ก็เริ่มเห็นการปรับกลยุทธ์การบริหารเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ เพื่อรับมือกับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในตลาดการเงินโลก ผ่านการหันมาออกผลิตภัณฑ์เงินฝากระยะยาวกว่า 1 ปีเพื่อล็อกต้นทุนดอกเบี้ย เทียบกับปีก่อนที่ธนาคารส่วนใหญ่นิยมออกแคมเปญเงินฝากระยะสั้น

ดังนั้น ด้วยการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวของธนาคารพาณิชย์ บวกกับปัจจัยเฉพาะด้านการพักเงินของลูกค้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงประเมินว่า สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ในช่วงไตรมาส 1/2560 นี้ น่าจะมีทิศทางผ่อนคลายลงเล็กน้อย โดยสัดส่วน LTD+Borrowing น่าจะยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 91.0% เทียบกับสิ้นปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ 91.3% logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP