WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน 2568 ติดต่อเรา
บอร์ด คปภ. เห็นชอบกำหนดค่าความเสี่ยง สำหรับการลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ##

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

29 มกราคม 2561 : ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 ให้ความเห็นชอบการกำหนดค่าความเสี่ยงที่ใช้ในการคำนวณเงินกองทุนสำหรับการลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) ให้มีค่าเท่ากับ ร้อยละ 8

ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ได้ให้ความเห็นชอบในหลักการการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund) เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการระดมทุนของภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในอนาคต ช่วยแบ่งเบาภาระการคลังของประเทศในระยะยาว และเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศผ่านกลไกของตลาดทุนได้ และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาคัดเลือกโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนฯ

สำนักงาน คปภ. พิจารณาแล้วเห็นว่า กองทุน TFF จัดตั้งขึ้นตามมติของคณะรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่เป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนของธุรกิจประกันภัย อันจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตและพัฒนาการของอุตสาหกรรมประกันภัยในระยะยาว ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายการลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund)

โดยเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 คณะทำงานดังกล่าวได้มีการประชุมหารือรายละเอียดลักษณะกองทุนรวม รวมถึงมีการให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการกำหนดค่าความเสี่ยงสำหรับการลงทุนว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน Thailand Future Fund เป็นทางเลือกที่ดีในการระดมทุนของภาครัฐเพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งภาคธุรกิจประกันภัย พร้อมให้ความสนับสนุนการลงทุนดังกล่าว โดยคณะอนุกรรมการ RBC2 ได้มีการประชุมเพื่อกำหนดค่าความเสี่ยงสำหรับการลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund: TFF) เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2561

เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า คณะอนุกรรมการ RBC2 ได้มีความเห็นต่อกองทุน TFF ว่าเป็นกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และเป็นเครื่องมือของภาครัฐเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ผ่านการระดมทุน จากภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจประกันภัยที่ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักกลุ่มหนึ่ง โดยมีการถ่ายโอนรายได้ (Revenue Transfer Agreement: RTA) ค่าผ่านทางจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ให้แก่กองทุน จึงทำให้กองทุน มีรายได้ที่ค่อนข้างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้มีความผันผวนต่ำ และมีโอกาสที่ผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้น จากการปรับอัตราค่าผ่านทางได้ทุก 5 ปี

นอกจากนี้ จะนำเงินจากการระดมทุนไปก่อสร้างส่วนต่อขยายอีก 2 เส้นทาง เนื่องจากกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่มีแหล่งที่มาของรายได้ที่ชัดเจน มีความสม่ำเสมอของรายได้ ประกอบกับมีลักษณะที่แตกต่างจากกองทุนอื่น กล่าวคือผลตอบแทนจะได้จากรายได้ของกองทุน มิใช่จากผลกำไรของกองทุน ซึ่งส่งผลให้โอกาสในการสูญเสียเงินต้นมีจำกัด นอกจากนี้ยังเป็นกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ น่าจะส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของกองทุนสูงกว่าตราสารของภาคเอกชน

จากการประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 ได้มีมติให้ความเห็นชอบการกำหนดค่าความเสี่ยงที่ใช้ในการคำนวณเงินกองทุนสำหรับการลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) ให้มีค่าเท่ากับ ร้อยละ 8 ตามมติที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการพัฒนากรอบการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง

4332745

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th หรือ กลุ่มงานสื่อสารองค์กร โทรศัพท์ 02-515-3998-9 ต่อ 8307 โทรสาร 02-513-1437 http://www.facebook.com/PROIC2012 logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

ประกันภัย ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP